ไฟไหม้รถ

ไฟไหม้รถ

หลังจากเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เกิดขึ้นหลายข่าวด้วยกัน ในส่วนของข่าวที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุนั้น มีการรายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์เหมือนทุกปี

เพียงแต่ว่าปีนี้มีข่าวอุบัติเหตุที่เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ เกิดขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์เพียงแค่ไม่กี่วัน เป็นข่าวอุบัติเหตุที่บวกกับข่าวอาชญากรรมก็ว่าได้ นั่นคือข่าวนักการเมืองหนุ่มขับรถปะทะกับชาวบ้าน แล้วก็ลามปามมาจนถึงเป็นข่าวที่ออกในรูปของอาชญากรรม

ข่าวที่ว่ามานั้นสังคมไทยมีความคิดเห็นแตกแยกกันเป็นสองส่วน ส่วนแรกนั้นฟันธงเลยว่านักการเมืองหนุ่มผิด ส่วนที่สองมองแยกออกมาเป็นประเด็นให้เห็นชัด โดยเห็นว่าการเกิดเหตุครั้งแรกนั้น ฝ่ายประชาชนที่ขับรถปิกอัพเป็นฝ่ายผิด หรืออย่างน้อยก็เป็นเหตุประมาทร่วมกัน

เพราะเปลี่ยนไปเข้าช่องทางเดินรถของอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ ส่วนหลังจากเหตุนั้นต่อมาทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ความผิดเกิดขึ้นที่นักการเมืองหนุ่ม ซึ่งทำการขับรถไล่ปาดไล่แซงรวมถึงสุดท้าย ใช้รถเข้าตบกระแทกจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นมา ทำให้กลายเป็นข่าวใหญ่ในรอบเดือน จะเป็นรองก็เพียงแค่ข่าวตึกถล่มในช่วงแผ่นดินไหวเท่านั้น

หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่นาน มีข่าวเกี่ยวกับรถยนต์เกิดขึ้นที่น่าสนใจอยู่สองข่าว โดยทั้งสองข่าวนั้นเป็นเรื่องของไฟไหม้รถยนต์ แต่เกิดขึ้นกับรถยนต์ต่างชนิดต่างประเภท และเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางทั้งสองกรณี ตามประสาโลกการสื่อสารยุคใหม่ ที่ทุกคนพร้อมที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการแสดงความคิดเห็นตามอารมณ์ โดยมักจะไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ใดมาประกอบ ซึ่งทำให้ไม่สามารถหาข้อสรุปกับเหตุการณ์ที่เกิดนั้นได้ และไม่สามารถที่จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ครั้งต่อไปได้ด้วยเช่นกัน

เรื่องไฟไหม้รถยนต์นี้ผมเคยเขียนบทความเอาไว้ ที่ออโต้ คลินิกแห่งนี้เมื่อราว 20 ปีที่ผ่านมา ครั้งนั้นผมเขียนเกี่ยวกับเรื่องสิ่งของที่ไม่ควรทิ้งเอาไว้ในรถ เพราะอาจจะทำให้เกิดไฟลุกไหม้รถยนต์ขึ้นมาได้ หลังจากบทความเผยแพร่ออกไป ก็มีคนส่งโทรสารหรือแฟกซ์เข้ามา ข้อความก็เชิงเสียดสีด่าทอหาว่าผมคิดมากเกินไป เอาเรื่องไร้สาระมาเขียน สิ่งของที่ผมเตือนเอาไว้ในครั้งนั้น ว่าไม่ควรทิ้งไว้ในรถที่จอดตากแดด เพราะอาจจะเกิดทำให้ไฟไหม้รถได้ เช่น ไฟแช็กแก๊ส, แว่นสายตา เป็นต้น ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคนแรกที่เขียนเรื่องอย่างนี้หรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นคนแรก ๆ ที่โดนด่าเพราะเขียนเรื่องอย่างนี้

กลับมาที่กรณีรถยนต์ไฟไหม้ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ กรณีแรกนั้นเกิดขึ้นกับรถปิกอัพที่จอดอยู่กลางทุ่งนา เป็นการจอดรถเพื่อดูการแข่งขันจุดบั้งไฟ ทันทีที่เกิดไฟไหม้รถยนต์ขึ้นจำนวนสี่ถึงห้าคัน มีบางกระแสข่าวกล่าวว่า ไฟที่ไหม้ขึ้นมานั้นเกิดจากสะเก็ดไฟของการจุดบั้งไฟ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีการออกข่าวว่า ไฟไหม้รถยนต์ปิกอัพสี่ห้าคันนั้น เกิดขึ้นจากรถปิกอัพต้นเหตุมีการวางไฟแช็กไว้ที่รถ เมื่อไฟแช็กโดนความร้อนจึงเกิดระเบิดและทำให้ไฟไหม้ จากนั้นจึงลุกลามไปยังรถคันอื่นๆ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นยังไม่มีใครออกมาแถลงถึงผลการพิสูจน์หลักฐานอย่างเป็นทางการ

เมื่อครั้งที่ประเทศไทยเราข้อกฎหมายกำหนด ให้รถยนต์ทุกคันที่จำหน่ายในประเทศไทย ต้องติดตั้งอุปกรณ์กรองไอเสียแบบสามทาง ที่เรียกกันว่า ทรี เวย์ แคตตาลิติค คอนเวอร์เตอร์ ครั้งนั้นผมเคยเขียนบทความไว้ในคอลัมน์นี้ว่า รถยนต์ที่มีอุปกรณ์ดังกล่าวติดตั้งมา ให้ตรวจสอบจุดที่ต้องจอดหลังจากใช้งานมายาวนานให้เหมาะสม เพราะเครื่องกรองไอเสียแบบสามทางนั้น จะมีความร้อนสะสมอยู่ในตัวเองสูงมาก หากไปจอดรถและตัวอุปกรณ์เครื่องกรองไอเสียแบบสามทาง อยู่ตรงกับตำแหน่งที่มีกระดาษ, ใบไม้แห้ง หรือตรงบริเวณที่มีสิ่งของซึ่งสามารถติดไฟได้ง่าย ความร้อนจากเครื่องกรองไอเสียแบบสามทาง ก็อาจจะทำให้สิ่งของเหล่านั้นเกิดไฟลุกขึ้นมา แล้วก็ลามไหม้ที่ตัวรถยนต์และบ้านเรือนได้ ซึ่งนั่นเป็นคำเตือนอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผมถูกด่าไม่น้อยทีเดียว ด้วยข้อหาว่าคิดมากเกินไปและสร้างความแตกตื่นให้กับคนใช้รถ

ย้อนกลับมาดูกรณีที่ไฟไหม้รถปิกอัพที่จอดอยู่กลางทุ่งนา ซึ่งจากภาพข่าวจะเห็นได้ว่ามีตอข้าวแห้งอยู่เต็มท้องทุ่ง และภูมิอากาศอยู่ในสภาพแดดจ้า มีความร้อนสูง และอากาศแห้ง ซึ่งง่ายต่อการติดไฟ หรืออาจจะเกิดจากกรณีที่มีการกล่าวมาก็เป็นได้ นั่นคือมีการวางไฟแช็กไว้ในรถ และเมื่อความร้อนสูงไฟแช็กจะเกิดระเบิดแล้วกลายเป็นเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมา หรืออาจจะเกิดจากเลนส์ในสภาพต่างๆ เช่นเลนส์จากแว่นสายตา หรืออาจจะเกิดจากขวดน้ำ ซึ่งเมื่อแสงแดดส่องผ่านมา สิ่งของเหล่านั้นก็แปรสภาพเป็นเลนส์นูน แล้วรวมแสงและรวมความร้อนไปที่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีของที่ง่ายต่อการเกิดเปลวไฟ จึงทำให้ไฟไหม้รถขึ้นมาได้ 

หรืออาจจะเกิดจากไฟฟ้าในรถยนต์ลัดวงจรขึ้นมาก็เป็นได้ เพราะรถยนต์สมัยนี้มีอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆมากมาย อาจจะมีการชาร์จพาวเวอร์แบงก์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆคาไว้ในรถ เหตุผลแท้จริงคงต้องรอการพิสูจน์หลักฐานจากเจ้าหน้าที่เท่านั้น

กรณีไฟไหม้รถยนต์รายที่สองที่เป็นข่าวขึ้นมา ข่าวแจ้งว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแท้ ๆ ยี่ห้อ บีวายดี เกิดขึ้นในขณะที่เสียบไฟชาร์จรถไว้ตอนกลางคืน จากเนื้อข่าวกล่าวว่าเจ้าของรถมั่นใจว่าเกิดขึ้นเพราะการชาร์จรถ แต่ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ทราบได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อาจจะเกิดจากการเดินสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐานมาที่ตู้ชาร์จ หรืออาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นก็เป็นได้เพราะดูจากภาพข่าวแล้ว จุดแรกที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมา อยู่ตรงบริเวณฝากระโปรงหน้าต่อกับกระจกหน้ารถ ไม่ได้เกิดขึ้นที่ตำแหน่งจุดชาร์จรถโดยตรง 

เพราะฉะนั้นเรื่องต่างๆเหล่านี้ จึงควรต้องรอการพิสูจน์หลักฐานอย่างเป็นทางการเท่านั้น จึงจะชี้ชัดกันได้ครับ