กฎหมายดอดด์-แฟรงค์ จุดเปลี่ยนอนุพันธ์นอกตลาด

ขอติดตามความเคลื่อนไหวการกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกาภายหลังจากวิกฤตการณ์ซับไพร์ม เมื่อ 2008 ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามไปทั่วโลก
สวัสดีค่ะ ในวันนี้จะขอติดตามความเคลื่อนไหวการกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกาภายหลังจากวิกฤตการณ์ซับไพร์ม (Subprime) เมื่อ 2008 ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามไปทั่วโลก รัฐบาล และรัฐสภาสหรัฐจึงได้ร่วมกันระดมความคิดและหามาตรการในการปฏิรูประบบการเงินของสหรัฐอเมริกาครั้งยิ่งใหญ่ในหลายด้าน โดยการปฏิรูปที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลานั้นและส่งผลกระทบต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจอนุพันธ์ที่ซื้อขายนอกตลาดของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก ก็คือ กฎหมายดอดด์-แฟรงค์ หรือที่มีชื่อเต็มๆ ว่า Dodd-Frank Wall Street Reform and Consumer Protection Act
กฎหมายดอดด์-แฟรงค์ นี้ตั้งชื่อตามนักกฎหมายสองท่านซึ่งเป็นผู้ผลักดันกฎหมาย ณ ขณะนั้น ซึ่งก็คือ ท่านสมาชิกวุฒิสภา Chris Dodd และสมาชิกรัฐสภา Barney Frank ซึ่งถึงแม้ว่าวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2008 แต่ด้วยกระบวนการทางกฎหมายที่มีขั้นตอนซับซ้อน กว่าที่กฎหมายฉบับนี้จะผ่านรัฐสภาและมีผลบังคับใช้ก็ล่วงเลยมาถึงช่วงกลางปี 2010 โดยเนื้อหาสำคัญในกฎหมายฉบับนี้คือการเพิ่มความเข้มงวดในการทำธุรกรรมทางการเงินในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การปล่อยสินเชื่อ การเปิดเผยข้อมูลของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ การลงทุนของสถาบันการเงิน และการทำธุรกรรมอนุพันธ์โดยเฉพาะอนุพันธ์ที่เป็นการซื้อขายนอกตลาด
หลักการที่สำคัญก็คือการกำหนดให้ธุรกรรมการซื้อขายอนุพันธ์นอกตลาด (Over the Counter : OTC) ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น Credit Default Swap นั้น ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต.ของสหรัฐ หรือที่เรียกว่า SEC (Securities Exchange Commission) และหน่วยงานกำกับดูแลอนุพันธ์ของสินค้าโภคภัณฑ์ ที่เรียกว่า CFTC (Commodities Futures Trade Commission) โดยที่ก่อนหน้านั้นธุรกรรม Swap Agreement ระหว่างสถาบันการเงินสามารถดำเนินการได้อย่างเสรีและได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในการกำกับของ SEC และ CFTC ตั้งแต่ปี 2000 โดยภาครัฐอนุญาตให้สถาบันการเงินที่มีความแข็งแรงเป็นผู้ดูแลความเสี่ยงในการทำธุรกรรมด้วยตนเอง
การติดตามและตรวจสอบจึงมีความเข้มข้นน้อย กฎหมายดอดด์-แฟรงค์จึงได้กำหนดให้การซื้อขาย Swap จะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล และผู้ประกอบการและผู้ลงทุนจะต้องเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมดังกล่าว โดย SEC และ CFTC จะแบ่งหน้าที่การกำกับดูแลและตรวจสอบ กล่าวคือ SEC จะทำหน้ากำกับดูแลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับหุ้นและดัชนีหุ้น ในขณะที่ CFTC ทำหน้าที่กำกับดูแลธุรกรรมอนุพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนี้ กฎหมายดอดด์-แฟรงค์ ยังได้ผลักดันให้การชำระราคาการซื้อขายอนุพันธ์ที่ซื้อขายนอกตลาดดำเนินการโดยผ่านสำนักหักบัญชี (Clearing House) ซึ่งเป็นไปในลักษณะเดียวกับที่ซื้อขายอนุพันธ์ในตลาดที่มีการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการอีกด้วย โดยวิธีการที่จะดำเนินการนั้นกฎหมายมิได้ระบุถึงรายละเอียดในการจัดให้มีหน่วยงานชำระราคา หน่วยงานกำกับดูแลจึงต้องไปทำการศึกษาถึงวิธีที่เหมาะสมที่สุดต่อไป ซึ่งอาจเป็นทั้งรูปแบบการใช้สำนักหักบัญชีที่มีอยู่แล้ว หรือการจัดตั้งใหม่ก็ได้
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าอนุพันธ์ที่มักได้รับการกล่าวขวัญในเชิงลบนี้ และเป็นส่วนที่ทำให้เกิดวิกฤติ Subprime เป็นอนุพันธ์ประเภทที่ซื้อขายกันนอกตลาดที่มีการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ หรือที่เรียกว่า OTC Derivatives ซึ่งเป็นการตกลงระหว่างคู่สัญญา จึงไม่มีการเปิดเผยข้อมูลให้ทราบเป็นการทั่วไป รวมทั้งการได้รับอนุญาตไม่ต้องถูกกำกับดูแลในสหรัฐ โดยผู้ลงทุนมักเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ซึ่งเคยเป็นที่คาดว่าจะมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี
แต่เมื่อเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ กลับปรากฏว่าสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินงานด้านอนุพันธ์ที่มีความหลากหลายและมีความซับซ้อนนี้ กลับสร้างปัญหาในขนาดที่ใหญ่และมีผลกระทบเป็นวงกว้างกับภาคการเงินไปทั่วโลกและยากต่อการแก้ไข กฎหมายดอดด์-แฟรงค์จึงได้กำหนดให้มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดในธุรกรรมประเภทนี้ และมีข้อกำหนดในเรื่องการเปิดเผย และเผยแพร่ข้อมูล รวมทั้งการกำหนดให้การชำระราคาต้องดำเนินการผ่านสำนักหักบัญชีเพื่อลดความเสี่ยงด้านเครดิตของแต่ละสถาบันการเงินที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นคงต่อระบบการเงินของประเทศในระยะยาว
สำหรับในประเทศไทยนั้น อนุพันธ์ที่ซื้อขายนอกตลาด เป็นธุรกรรมที่ดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ซึ่งมีธนาคารแห่งประเทศไทยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ในขณะที่อนุพันธ์ที่ซื้อขายที่ตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ซึ่งเป็นตลาดที่ถูกกำกับอย่างเป็นทางการนั้น ถูกกำกับดูแลอย่างเข้มงวดจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ทั้งในการดำเนินการของตลาดอนุพันธ์ สำนักหักบัญชี รวมถึงบริษัทโบรกเกอร์อนุพันธ์ ท่านผู้อ่านจึงอาจจะเบาใจได้ว่าไม่น่าจะมีกฎหมายในลักษณะดอดด์-แฟรงค์ในบ้านเรา ทั้งนี้ หากรายละเอียดด้านกฎหมายดอดด์-แฟรงค์มีความคืบหน้าเพิ่มเติม ดิฉันจะนำมา Update ให้ท่านผู้อ่านทราบนะคะ