สิ่งที่อยากเห็นในการประชุมผู้ถือหุ้นปีนี้

สิ่งที่อยากเห็นในการประชุมผู้ถือหุ้นปีนี้

ในทุกปีประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมจะเป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ต้องจัดให้มีการประชุมสามัญประจำปี

หรือการประชุมผู้ถือหุ้น (Annual General Meeting : AGM) ระหว่างผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการบริษัท ซึ่งตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนจะต้องจัดให้มีการประชุม AGM ภายในสี่เดือนนับตั้งแต่วันปิดงบบัญชี โดยแต่ละบริษัทจดทะเบียนอาจมีรอบการปิดงบบัญชีที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะปิดงบในวันที่ 31  ธันวาคม ทำให้ บจ. ส่วนใหญ่จะจัดประชุมในช่วงระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน

การประชุมสามัญประจำปีถือว่าสำคัญมาก เพราะเป็นโอกาสเดียวในหนึ่งปีที่ผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการบริษัทจะพบปะ ซักถาม และหารือกันในประเด็นที่เกี่ยวกับการบริหารและกิจการของบริษัท และสำหรับผู้ถือหุ้น การประชุมสามัญประจำปีสำคัญมาก เพราะเป็นโอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะสามารถ

หนึ่ง เข้าใจผลประกอบการของบริษัทที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา และรับทราบกลยุทธ์ที่บริษัทจะดำเนินการในปีถัดไป รวมถึงแนวโน้มธุรกิจของบริษัทจากการรายงานของคณะกรรมการ ข้อมูลเหล่านี้จะสำคัญมากต่อผู้ถือหุ้นที่จะเข้าใจแนวความคิดของการกำกับดูแล และบริหารจัดการของคณะกรรมการบริษัทและฝ่ายจัดการ เพื่อประกอบการตัดสินใจที่จะลงทุนหรือถือหุ้นของบริษัทต่อไป

สอง เป็นโอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะสามารถซักถามคณะกรรมการและผู้บริหารได้โดยตรงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ทั้งในแง่ผลประกอบการและประเด็นธรรมาภิบาล การซักถามดังกล่าวเป็นการซักถามคณะกรรมการและผู้บริหารโดยตรง ต่อหน้าผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ทำให้ข้อมูลที่จะได้รับจากการตอบคำถามนั้นเป็นข้อมูลที่สำคัญ ผู้ถือหุ้นจะเข้าใจในประเด็นต่างๆ นอกเหนือจากที่ปรากฏอยู่ในรายงานประจำปี ได้เรียนรู้แนวความคิดและคำอธิบายของคณะกรรมการ รวมถึงท่าทีในการตอบคำถามและความสำคัญที่คณะกรรมการให้กับคำถามที่ผู้ถือหุ้นซักถาม ทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับบริษัทได้มากขึ้น และสามารถประเมินได้ว่าการทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทตรงกับการคาดหวังของผู้ถือหุ้นหรือไม่ และในฐานะผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจในความสามารถของคณะกรรมการที่จะกำกับดูแล และบริหารจัดการธุรกิจที่ผู้ถือหุ้นลงทุนซื้อหุ้นไว้หรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้จะได้ก็จากการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นกับคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารเท่านั้น

สาม เป็นโอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะใช้สิทธิของความเป็นเจ้าของลงคะแนนในประเด็นที่คณะกรรมการบริษัทนำเสนอ เช่น การเลือกกรรมการใหม่ หรือต่ออายุกรรมการที่ครบวาระ การอนุมัติผู้สอบบัญชีของบริษัท การอนุมัติค่าตอบแทนคณะกรรมการ รวมถึงการอนุมัติเรื่องเงินปันผล เหล่านี้สำคัญเพราะเป็นสิทธิของผู้ถือหุ้นตามกฎหมายที่การออกเสียงจะทำให้ผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางและการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท

สำหรับคณะกรรมการบริษัท การประชุมสามัญประจำปีก็เป็นโอกาสสำคัญที่คณะกรรมการจะใช้ในการอธิบายหรือชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นในบริษัทให้ผู้ถือหุ้นทราบ ซึ่งการอธิบายดังกล่าวเป็นการอธิบายที่ถือว่าเป็นทางการที่สุด มีการจดบันทึกการประชุม และมีผลตามกฎหมาย นอกจากนี้วิธีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นก็สำคัญ เพราะต้องสอดคล้องกับวิธีปฏิบัติที่มีระบุไว้ในกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิทางกฎหมายของผู้ถือหุ้น การไม่ปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ถือเป็นการละเมิดสิทธิที่ควรมีของผู้ถือหุ้น และขัดต่อหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ดังนั้น การประชุมสามัญประจำปี ถือได้ว่าเป็นบททดสอบสำคัญของคณะกรรมการบริษัท ว่าได้ทำหน้าที่กรรมการตามหลัก Fiduciary duties หรือการเป็นตัวแทนดูแลทรัพย์สินของผู้อื่นได้ครบถ้วนหรือไม่ ทั้งประเด็นสิทธิของผู้ถือหุ้น การดูแลสิทธิผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน การดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล และการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ

คณะกรรมการบริษัทที่จัดการประชุมสามัญประจำปีได้ดี ผู้ถือหุ้นจะได้ประโยชน์มาก ทั้งจากความรู้และความเข้าใจ ที่มาจากการชี้แจงและตอบคำถามของคณะกรรมการ สร้างความมั่นใจที่ผู้ถือหุ้นมีต่ออนาคตของบริษัท และต่อความสามารถในการกำกับดูแลของคณะกรรมการ ทำให้ธุรกิจของบริษัทได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ยกตัวอย่าง การประชุมสามัญประจำปีของบริษัท Berkshire Hathaway ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนที่มีนักลงทุนชื่อดังของโลก คือ นายวอเรนท์ บัฟเฟท (Warren Buffet) เป็นประธานกรรมการ ถือเป็นการประชุม AGM ที่ใหญ่มากที่สุดอันหนึ่งของโลก มีผู้ถือหุ้นจากทั่วโลกเข้าประชุม บางปีใช้เวลาประชุมกว่าสามวัน เพราะผู้ถือหุ้นต้องการเข้าฟังและหาความรู้จากประธานกรรมการ ซึ่งเป็นนักลงทุนที่มีความรู้และร่ำรวยในระดับต้นๆ ของโลก

จากการตรวจสอบข้อมูลการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนไทยบนเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 พบว่า ในปีนี้การประชุมใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 627 บริษัท จะอยู่ในช่วง 79 วันทำการระหว่างต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถึงปลายเดือนพฤษภาคม เฉลี่ยประมาณ 8 บริษัทต่อวัน โดยเดือนที่มีการจัดประชุม AGM มากที่สุดคือเดือนเมษายน ประมาณ 580 บริษัทและวันที่จะมีการประชุมมากที่สุดก็คือวันที่ 28 เมษายน ที่จะมีการประชุมมากถึง 82 บริษัทในวันนี้วันเดียว

ดังนั้น สิ่งที่อยากเห็นในแง่ของการกำกับดูแลกิจการที่ดีก็คือ อยากให้ทั้งคณะกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้นใช้ประโยชน์จากวันประชุมดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเข้าใจในธุรกิจของบริษัท แสดงภาวะผู้นำของคณะกรรมการบริษัท และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นในฐานะเจ้าของและนักลงทุน โดยสิ่งที่อยากเห็นในวันประชุมก็คือ

หนึ่ง กรรมการบริษัทมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน อย่าให้ขาด อย่าให้สาย และให้ความสำคัญที่จะตอบคำถาม และชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่ผู้ถือหุ้นซักถามอย่างจริงใจเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ

สอง กรรมการอิสระที่เพิ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการครั้งแรกต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อลงมติอนุมัตินั้น ควรอย่างยิ่งที่จะต้องใช้โอกาสนี้แนะนำตัวเองต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นรู้จัก และควรพูดให้ผู้ถือหุ้นทราบสั้นๆ ว่าจะเข้ามามีบทบาทอย่างไร และคณะกรรมการบริษัทจะได้ประโยชน์อย่างไรจากบทบาทของตนในฐานะกรรมการอิสระของบริษัท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่าได้กรรมการอิสระที่มีความสามารถเข้ามาช่วยงานของบริษัท

สาม ประธานกรรมการจะต้องถือเป็นความรับผิดชอบที่ต้องเข้าร่วมประชุม เป็นคนเดียวที่ขาดไม่ได้ เพราะเป็นคนเดียวที่ผู้ถือหุ้นอยากเจอและอยากฟัง ปีที่แล้ว สถิติของประธานกรรมการที่เข้าร่วมประชุม AGM ของไทยถือว่าดี แต่ยังไม่ดีมาก คือ เข้าร่วมร้อยละ 91 ขาดไปเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ปีนี้จึงอยากเห็นประธานกรรมการทุกบริษัทให้ความสำคัญ และเข้าร่วมประชุม AGM เพราะบทบาทของประธานกรรมการมีความสำคัญต่อการสร้างบรรยากาศของการประชุม (set the tone) และประธานกรรมการควรเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นได้ซักถามและมีเวลาตอบคำถามอย่างเพียงพอ ที่สำคัญประธานกรรมการต้องใจเย็นมากๆ ที่จะรับฟังความเห็นของสมาชิก ให้เกียรติสมาชิกในฐานะเจ้าของและผู้ถือหุ้นในการแสดงความเห็น ไม่พูดตัดบท ควบคุมดูแลการประชุมให้เป็นไปตามวาระที่ได้กำหนดไว้ และอยู่ภายในเวลาที่เหมาะสม ควรทำให้การประชุมผู้ถือหุ้นเป็นเรื่องจริงจัง ซีเรียสที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท

ท้ายสุดสำหรับผู้ถือหุ้นควรเข้าประชุม ซักถาม และลงคะแนนตามสิทธิผู้ถือหุ้นอย่างพร้อมเพรียง อย่าทำให้การประชุมเสียเวลา เพราะการทำหน้าที่ผู้ถือหุ้นอย่างเข้มแข็งก็คือการสนับสนุนให้บริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อประโยชน์ของบริษัทและเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น