ตลาดสินค้าผู้สูงอายุจีน ขุมทองของ SMEs ไทย

ในปี 2030 กลุ่มประชากรโลกที่มีอายุ65ปี ขึ้นไป จะเพิ่มเป็น1,000ล้านคน โดยทวีปที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดคือทวีปเอเชีย อยู่ที่61% อันดับหนึ่งคือประเทศญี่ปุน ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น30 %จากประชากรทั้งประเทศ 120 ล้านคน ตามด้วยสิงคโปร์ เพิ่มเป็น23%ประเทศไทยขยับเพิ่มเป็น19%

ผมได้นำเสนอข้อมูลของผู้สูงอายุในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว ตลาดสินค้าผู้สูงอายุที่น่าสนใจของประเทศจีน เป็นอีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน จากสถิติล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศจีนได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุที่มีอายุ60ปีขึ้นไป มีจำนวนประมาณ220ล้านคน และคาดว่าตั้งแต่ปี2538-2578จำนวนผู้สูงถึง20%และในปี2593จะเพิ่มเป็น30%การบริโภคของผู้สูงอายุชาวจีนจะมีมูลค่าสูงถึง800,000ล้านหยวน

ปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว รายได้ของประชากรเพิ่มสูงขึ้นและระบบสวัสดิการสังคมปรับปรุงดีขึ้น ทำให้กำลังซื้อของผู้สูงอายุสูงขึ้น พฤติกรรมการบริโภคของผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงด้านกายภาพและจิตใจ จึงทำให้มีความต้องการในหลาย ๆ ด้าน เช่น สินค้าสุขภาพ อาหาร เสื้อผ้า บริการทางการแพทย์ การท่องเที่ยวและความบันเทิง พฤติกรรมการบริโภคของผู้สูงอายุจีน ที่สำคัญได้แก่ การต้องการความสะดวกสะบายในการบริโภค นิยมสินค้ามีคุณภาพสูงและบริการที่ดี ใช้แล้วสบายใจ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการบำรุงรักษา

ประเภทสินค้าที่ต้องการ ได้แก่ เครื่องแต่งกาย สินค้าสุขภาพ อาทิเช่น ใบชา อาหารป้องกันโรคเบาหวาน ผลิตภัณฑ์เพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนไหว เช่น รถไฟฟ้า รถเข็น อุปกรณ์ฟื้นฟูสุขภาพ เครื่องมือทางการแพทย์ ในกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุเกินกว่า 70 ปี มีความต้องการอุปกรณ์ช่วยในการดำรงชีวิต เช่น ไม้เท้า เครื่องช่วยฟัง แว่นสายตา และยังมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ต้องการกผลิตภัณฑ์ดิจิตอล เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป

จากการสำรวจพบว่าปัจจุบัน ผู้สูงอายุมีความต้องการสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต78.91%ต้องการอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก27.54%ต้องการสินค้าอาหาร27.44%ต้องการเสื้อผ้า8.72%

กำลังซื้อสินค้าของผู้สูงอายุชาวจีนค่อนข้างสูงและยังมีโอกาสในการบุกเบิกตลาดอีกมาก 

ปัจจุบันนักธุรกิจที่เข้าสู่ตลาดมีน้อย ในช่วงหลายปีทีผ่านมาสินค้าอาหารที่ผลิตในจีน รวมสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ มีปัญหาในด้านคุณภาพ และความปลอดภัย จึงทำให้ผู้บริโภคชาวจีนหันไปบริโภคสินค้านำเข้ามากขึ้น เป็นโอกาสสำหรับท่านผู้ประกอบการไทยซึ่งมีชื่อเสียงในการผลิตอาหารคุณภาพเข้าไปทำตลาดได้ไม่ยาก มีนักธุรกิจไทยหลายรายส่งออกผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและผลไม้ไทย อาทิเช่น ขนมขบเคี้ยว ผลไม้แปรรูป ข้าวหอมมะลิไทย ทุเรียน มังคุด และลำใยไปตลาดมณฑลเสฉวนที่มีประชากรกว่า80ล้านคน มีผู้สูงอายุเป็นอันดับสองของประเทศจีนโดยเฉพาะนครเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน มีผู้สูงอายุตั้งแต่60ปี ขึ้นไป เกือบ3ล้านคน

ผู้ส่งออกไทยควรเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Nich Market) มีการกำหนดราคาสินค้า ค่าบริการ การรักษาคุณภาพให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการอื่นจากประเทศจีนและต่างประเทศได้ มีการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าไทยอย่างต่อเนื่อง ประเทศจีนจะจัดแสดงสินค้าสำหรับผู้สูงอายุทุกปี เพื่อกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมสินค้าและบริการสำหรับผู้สูงอายุ การเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าระหว่างนักธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าร่วมงาน เพื่อสำรวจและศึกษาตลาดสินค้าผู้สูงอายุและประชาสัมพันธ์สินค้า จากงานต่าง ๆ ที่มีการจัดงานอย่างต่อเนื่อง 

ในปี2559ที่ผ่านมา มีการจัดงานHainan International Aging Industry Expoในเดือนพฤษภาคม ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ มณฑลไหหลำ งานShanghai International Exhibition of Rehabilitation Nursing and Healthcare Devices for Disableed Persons and Elderlyในเดือนกรกฎาคม ณShanghai World Expo Exhibition & Convention Center ช่วงเดือน กันยายน งานAging Industry & Holistic Health ExpoณXi'an Greenland PicoInternational Convention & Exhibition Center

สำหรับท่านผู้ประกอบการSMEsที่ยังไม่สามารถส่งออกได้ ควรมีการพัฒนาสินค้าเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยมากขึ้นทุกปี ในปี2559มีจำนวนสูงกว่า8ล้านคน ซึ่งมีจำนวนผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่มีรายได้สูง ในปี2558สามารถสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยวไทยถึง371,000ล้านบาท และจากการประเมินของIntercontinental Hotel Groupคาดว่าจะเพิ่มเป็น829,500ล้านบาท ในปี2566

ในภาวะที่กำลังซื้อจากกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยยังไม่กระเตื้อง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว กลุ่มผู้บริโภคชาวจีนจึงเป็นลูกค้าเป้าหมายสำคัญที่ท่านผู้ประกอบการSMEsควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ