เปิดแผน 'พีทีจี' ทุ่มลงทุน 3 - 4 พันล้าน ลุยธุรกิจ 'นอนออยล์' เต็มรูปแบบ

PTG ตั้งงบลงทุนปี 2568 ราว 3-4 พันล้านบาท ภายใต้ Max World ขยายธุรกิจในหลากหลายมิติ นำทัพด้วยฐานสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus กว่า 25 ล้านสมาชิก เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ Oil และ Non-Oil ตั้งเป้าสัดส่วนกำไรขั้นต้นกลุ่ม Non-Oil เป็น 50% จากปีก่อน 25% ในปี 2571 พร้อมก้าวสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2573

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า PTG ตั้งงบลงทุนปี 2568 ราว 3 - 4 พันล้านบาท มุ่งพัฒนาธุรกิจสู่ Max World ซึ่งเป็นระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้เข้าถึงชีวิตที่ อยู่ดี มีสุข ผ่าน 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่

1. ยกระดับคุณภาพให้ลูกค้ามี "ชีวิตดี" ผ่านบัตร Max Card และ Max Card Plus ให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย รับสิทธิพิเศษมากขึ้น เช่น บริการ PT MAX CAMP ฟรีระหว่างการเดินทาง ส่วนลด 50 สตางค์ / ลิตร สำหรับน้ำมันใสหรือ LPG ส่วนลด 50% สำหรับเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยหรือคอฟฟี่ เวิลด์ ฟรีค่าบริการจัดส่งน้ำมันฉุกเฉิน มูลค่า 100 บาท ซึ่งสะท้อนว่า PTG ขับเคลื่อนบนพื้นฐานความเข้าใจลูกค้า

2. ขยายธุรกิจ Non-Oil ให้เติบโตโดยตั้งเป้าสัดส่วนกำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2571 ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของกําไรขั้นต้น พร้อมกับธุรกิจ Non-Oil อื่นๆ อีก 25% โดยการเพิ่มในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มีปัจจัยมาจากการขยายกาแฟพันธุ์ไทยสู่ 5,000 สาขา ภายในปี 2571

ในมุมธุรกิจใหม่ Subway เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศธุรกิจของ PTG ผ่านบัตร Max Card จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าขึ้น

3. PTG ได้ย่อ Max World มาอยู่ในมือลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me เพื่อเพิ่ม "ความสะดวกสบาย" ให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น ผ่านแพลตฟอร์มที่รวมสินค้า บริการ และสิทธิพิเศษไว้ในที่เดียว

สำหรับปี 2567 ที่ผ่านมา PTG สร้างการเติบโตได้แข็งแกร่ง โดยมี PT Max Card และ PT Max Card Plus กว่า 25 ล้านสมาชิก คิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรไทย เป็นกุญแจสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดดทั้งปริมาณ คุณภาพและกลยุทธ์องค์กร แบ่งเป็น

1. ธุรกิจ Oil ทำสถิติใหม่ด้านปริมาณการจำหน่ายน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,548 ล้านลิตร เติบโต 12.9% สูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมกว่า 10 เท่า (ตลาดเติบโต 0.4%) ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 21.9% จาก Same-Store Sales Growth (SSSG) กว่า 11.6% โดยมี PT Max Card เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ดึงดูดลูกค้าให้กลับมาเติมน้ำมันมากขึ้น บ่อยขึ้น และต่อเนื่องขึ้น

ทั้งนี้ PTG เน้นโครงการหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานและคุณภาพการบริการ เช่น บริการส่งน้ำมัน Max Service บริการเช็ดกระจก ให้ลูกค้าเติบโตควบคู่ลูกค้า ชุมชนและคู่ค้า ผ่านการพัฒนา Max Enterprise Connect (MEC) โซลูชันเพื่อลูกค้าองค์กร และร่วมมือกรมการค้าภายใน สร้างคุณค่าร่วมกับภาครัฐและชุมชน ปรับปรุงสถานีบริการเป็น One - Stop Destination รองรับพฤติกรรมผู้บริโภค

2. ธุรกิจ Non - Oil เติบโตอย่างแข็งแกร่งครอบคลุมทุกมิติ มีรายได้เติบโต 31.2% สูงกว่าการเติบโตของ GDP 10 เท่า (GDP เติบโต 2.5%) กำไรขั้นต้นของธุรกิจเพิ่มขึ้น 35% โดยกาแฟพันธุ์ไทยเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อน ธุรกิจ Non-Oil กำไรขั้นต้นซึ่งเพิ่มขึ้น 80.2% จากการขยายสาขาเฉลี่ยกว่า 1.3 สาขาต่อวันไปยังสถานีบริการน้ำมันและภายนอกสถานีบริการน้ำมันที่มีศักยภาพ

"PTG ทำแคมเปญที่สอดรับกับการสนับสนุนวัตถุดิบท้องถิ่นอย่าง ไทยริกาโน ขณะที่ Autobacs ซึ่งประกอบธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ และศูนย์บริการ มาตรฐานระดับญี่ปุ่น กำไรขั้นต้นเติบโต 70.9% จากการขยายสาขาเป็น 117 สาขาภายในปี 2567 โดยมีรายได้เติบโตด้วยเช่นกันที่ 76%"

ทั้งนี้ การเติบโตของกาแฟพันธุ์ไทย และ Autobacs เกิดจากพลังของฐานลูกค้าสมาชิกมีการเติบโตสะท้อนจากยอดขายกาแฟพันธ์ไทยกว่า 75% มาจากสมาชิก Max Card และ Max Card Plus โดยสมาชิก Max Card Plus มีการบริโภคกาแฟมากกว่าลูกค้าทั่วไป 7 เท่าต่อเดือน อีกทั้งซื้อกาแฟต่อครั้งมากกว่าลูกค้าทั่วไปถึง 2 เท่า

นอกจากนี้ PTG ร่วมมือกับบรรษัทประกันสินเชื่อรายย่อย (บสย.) ขยายแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย และร่วมมือกับกรมป่าไม้ แม่ฟ้าหลวง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิก้าและพืชเศรษฐกิจยั่งยืนเพื่อรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรท้องถิ่นอย่างเป็นธรรม

รวมทั้งส่งเสริมวัตถุดิบท้องถิ่นแต่ละจังหวัดผ่านการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มของกาแฟพันธุ์ไทยเพื่อต่อยอดเพิ่มมูลค่า สนับสนุนเกษตรกร กระจายรายได้สู่ชุมชน และสร้างความยั่งยืนในทุกภูมิภาค

นายรังสรรค์ พวงปราง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและความยั่งยืน PTG กล่าวว่า PTG ขยายธุรกิจ Non-Oil เต็มรูปแบบให้ลูกค้าปลดล็อกสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า อาทิ บริการสินเชื่อที่ร่วมกับ Paisan Capital สนับสนุนผู้ประกอบการขนส่ง อีกทั้ง PTG เป็นผู้นำในการนำ Subscription Model มาเชื่อมต่อกับสถานีชาร์จ EV Elex by EGAT PT กว่า 200 สถานี พร้อมยกระดับสุขอนามัยของคนในชุมชนผ่านธุรกิจบริหารจัดการขยะ เป็นต้น

"ให้ความสำคัญกับการส่งมอบคุณค่าให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เช่น ติดตั้ง Solar Roof ในสถานีบริการแล้วกว่า 5.3 เมกะวัตต์ ค่ายอาสาทำจริงไม่ทิ้งกัน การส่งเสริมพืชเศรษฐกิจและไม้ยืนต้นร่วมกับการปลูกกาแฟ และการฟื้นฟูป่าชายเลน รวมถึงการร่วมมือกับกรมการค้าภายใน รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรเพื่อนำมาแจกให้ลูกค้าสถานีบริการน้ำมัน"

ทั้งนี้ PTG ตระหนักดีว่า ภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัจจุบัน 140 ประเทศทั่วโลก ได้ประกาศเป้าหมาย Net Zero ซึ่งกำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมพลังงานผ่าน นโยบาย COP, Carbon Tax และ CBAM ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนให้กับธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ด้วยเหตุนี้ PTG จึงให้คำมั่นในการก้าวสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2030