ผู้บริหาร ‘ดาราเทวี เชียงใหม่’ ตั้งข้อสังเกตเหตุไฟไหม้ เดินหน้าทุ่ม 500 ล้านรีโนเวตโรงแรม

มหากาพย์ความขัดแย้งเกี่ยวกับโรงแรม “ดาราเทวี เชียงใหม่” แลนด์มาร์กเลื่องชื่อของภาคเหนือ อันเกิดจากการประมูล เกี่ยวพันทั้งเจ้าของเดิมและเจ้าของใหม่ ยืดเยื้อลากยาวจนถึงปัจจุบัน กับปมที่ดินแปลงใหญ่กว่า 150 ไร่ เป็นหนึ่งในประเด็นร้อนที่สังคมจับตา หลังเกิดเหตุไฟไหม้เฉพาะ “อาคารสปา” ของโรงแรมเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา
นายสุพรรณ เศษธะพานิช กรรมการและผู้บริหาร บริษัท สยาม เอสเตท ดาราเทวี จำกัด กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันโรงแรม “ดาราเทวี เชียงใหม่” เป็นของบริษัท สยาม เอสเตท ดาราเทวี จำกัด ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้า (JV) ระหว่างบริษัท สยามเอสเตท กับ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด (IThermal) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC โดยได้ประมูลซื้อโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ (ตั้งบนพื้นที่หลักประมาณ 80 ไร่) มาในราคา 2,400 ล้านบาท
“เราจำเป็นต้อง JV กับ IThermal เพราะ IThermal เป็นทั้งเจ้าหนี้และเจ้าของทรัพย์ โดยประมูลซื้อโรงแรมดาราเทวี มาในราคา 2,400 ล้านบาท มีเงินสดจากสยามเอสเตทไป 1,000 ล้านบาท ที่เหลือ IThermal ใช้สิทธิในการหักส่วนได้ใช้แทน”
“ทำไมสยามเอสเตท ถึงจ่ายเงินสด 1,000 ล้านบาทสำหรับการซื้อโรงแรมดาราเทวี เพราะเราเห็นโอกาสในการลงทุน คิดว่ามูลค่าของโรงแรมแห่งนี้มีมากกว่านั้น ด้วยเอกลักษณ์ที่มีความยูนีค สามารถพัฒนาทำธุรกิจได้ในระยะยาว”
นายสุพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้โรงแรมดาราเทวี เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 23 เม.ย. 2568 ขอยืนยันอีกครั้งว่าโรงแรมดาราเทวี ไม่ได้ไหม้เสียหายทั้งหมด เนื่องจากได้รับความเสียหายน้อยมาก เฉพาะอาคารสปาเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 5% ของพื้นที่โรงแรม และแทบไม่มีผลต่อมูลค่าทางธุรกิจ
ทั้งนี้ ธุรกิจยังคงเดินหน้าตามปกติ โดยตามแผนการลงทุนที่จะเกิดขึ้นภายใต้งบลงทุน 500 ล้านบาท จะรีโนเวตโรงแรมดาราเทวีเพื่อกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบอีกครั้ง ซึ่งจะทยอยปรับปรุง 2 เฟส ได้แก่ เฟสแรก ได้ทยอยเปิดให้บริการร้านอาหาร และเปิด “กาดดาราเทวี” เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นตลาดบนพื้นที่สนามหญ้าของโรงแรมซึ่งดึงดูดคนมาท่องเที่ยวจับจ่ายเป็นจำนวนมาก และอยู่ระหว่างปรับปรุงห้องประชุมให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ ส่วนเฟส 2 ทยอยปรับปรุงห้องพัก วางกำหนดทำให้แล้วเสร็จเพื่อกลับมาเปิดโรงแรมให้ได้ภายในปลายปี 2568
“แม้จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ แต่ได้รับความเสียหายน้อยมาก และยืนยันว่าจะเดินหน้าทำโรงแรมดาราเทวี เพราะเป็นโรงแรมที่มีเสน่ห์ มีความพร้อมกลับมาทำให้เป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อีกครั้ง”
นายสุพรรณ กล่าวด้วยว่า สำหรับเหตุไฟไหม้โรงแรมดาราเทวี ต้องปล่อยให้เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ แต่ได้ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุไฟไหม้นั้นค่อนข้างมีความผิดธรรมชาติ เกินปกติวิสัย
ส่วนกรณีที่มีการให้ร้ายจากคนบางกลุ่ม ว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อหวังเงินประกันนั้น ทาง คปภ. ได้แจงแล้วว่าโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ไม่มีการทำประกันภัย เพราะฉะนั้นตัดทิ้งประเด็นนี้ได้
"เราไม่ได้ทำแน่นอน"
นอกจากนี้อาคารเหล่านี้ไม่ได้ใช้งานมานาน 6-7 ปี ภายในอาคารไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ที่เห็นว่ามีแสงสว่างบ้างโดยรอบ เป็นแค่การต่อไฟเพื่อให้แสงสว่างชั่วคราวรอบๆ อาคาร แต่ไม่เชื่อว่าจะเกิดไฟปะทุได้
อีกประเด็นที่เราอยากชี้แจงคือเรื่องการบริหารจัดการ หลังเปิดให้บริการ กาดดาราเทวี เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยมองว่าคนที่ตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ คู่ค้า เช่น ร้านอาหารทั้งหลายในกาดดาราเทวี สามารถสอบถามพวกเขาได้เลยว่าเราบริหารจัดการได้ดีขนาดไหน
“เราเข้าซื้อโรงแรมดาราเทวีแบบสุจริต แต่หลังจากเข้ามาประกอบกิจการ มีขบวนการในการฟ้องร้อง กลั่นแกล้ง ทำให้เราประกอบธุรกิจไม่ได้มากมาย ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกับที่พยายามให้ร้ายเพื่อดิสเครดิตในสิ่งที่เราพยายามจะทำกับโรงแรมดาราเทวี ส่วนเขาทำไปเพื่ออะไรนั้น คิดว่ามีคนเสียผลประโยชน์ในการที่เราประมูลซื้อโรงแรมดาราเทวีแบบสุจริต”
“ทั้งหมดเป็นแค่ความเห็น ที่เหลือขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
นายสุพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ฝากถามถึงกลุ่มบุคคลที่ขณะนี้อ้างว่าเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ผู้ถือหุ้น IFEC หรือเจ้าหนี้ผู้เสียหาย ว่าจริงๆ แล้วต้องการอะไรกันแน่ วัตถุประสงค์คืออะไร”
ขณะนี้ ทาง IFEC มี 2 กลุ่มที่เดือดร้อน ได้แก่ ผู้ถือหุ้น 2,000 กว่าราย ซึ่ง IFEC ถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยตอนนี้แทบไม่มีผู้เสียหายเก่าแล้ว เพราะผู้ถือหุ้นเก่าๆ นั้นขายหุ้นทิ้งไปหมดแล้ว ส่วนอีกกลุ่มคือเจ้าหนี้ ซึ่งได้ไปยื่นชื่อตัวเองในแผนฟื้นฟู และกำลังได้รับการชำระอยู่