ส่องโรงงาน 'กูลิโกะ' เคลื่อนธุรกิจ 55 ปี ในไทย ฐานทัพสำคัญของโลก

ไทยเป็นประเทศแรกที่ "กูลิโกะ" ขยายธุรกิจออกนอกแดนอาทิตย์อุทัย และยังเป็น 1 ใน 3 แห่งที่มีฐาน R&D ปีที่ 55 บริษัทเปิดโรงงานผลิตให้สื่อชมเป็นทางการครั้งแรก
“กูลิโกะ” เรื่องราวของแบรนด์ที่เกิดจากซุปหอยนางรม สู่ลูกอมคาราเมล รูปหัวใจที่ให้พลังงานการวิ่ง 300 เมตร จนเกิดต้นกำเนิด “กูลิโกะแมน” (Goal-in Mark) ตัวแทนความสำเร็จที่วิ่งเข้าเส้นชัยชูมือขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
ในโลก “กูลิโกะ” ดำเนินธุรกิจผ่าน “ร้อยปี” แล้ว ส่วนประเทศไทยถือเป็นหมุดหมายสำคัญ เพราะเป็น “ฐานทัพแห่งแรก” นอกประเทศญี่ปุ่น ยืนหยัดในตลาดมานาน 55 ปีแล้ว
ปัจจุบัน “กูลิโกะ” มี 3 โรงงานเพื่อผลิตสินค้าขนมหวาน บิสกิต หลากหลายรายการตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยและส่งออกไปยังตลาดโลก ทั้งอาเซียน รวมถึงสหรัฐ
“กูลิโกะ” ไม่เคยเปิดบ้านในส่วนที่เป็น “โรงงาน” ให้กับสื่อมวลชนดูอย่างเป็นทางการ เว้นรายการดังที่เข้าไปถ่ายทำกระบวนการผลิตอย่างใกล้ชิด ไม่เพียง “คนนอก” ไม่มีโอกาสได้สัมผัส ล้วงลับการผลิต แม้แต่พนักงานในโรงงาน หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปแต่อย่างใด
จะเข้าโรงงานต้องสวมชุดและผ่านการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อก่อน
ล่าสุด “ไทยกูลิโกะ” พาสื่อเยี่ยมชมโรงงานการผลิตสินค้าอย่างใกล้ชิด พร้อมบอกเล่ากระบวนการผลิตกว่าจะมีขนม “กูลิโกะ ป๊อกกี้” บิสกิตแท่งเคลือบรสช็อกโกแลตขนาด 45 กรัม หรือบรรจุ 13 แท่ง มีกรรมวิธีอย่างไรบ้าง
เทรนด์สุขภาพเกิดกว่า 100 ปี
เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด เล่าเรื่องราวของ “กูลิโกะ” ผู้ก่อตั้ง “ริอิจิ เอซากิ” ที่อยู่ในแวดวงเภสัชกรรม มองเห็นเทรนด์สุขภาพมาอย่างยาวนาน เมื่อขับเคลื่อนธุรกิจจึงโฟกัสไปยังชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่ดีขึ้น จนกลายเป็นเข็มทิศทางพาองค์กรสร้างสรรค์สินค้าตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ภายใต้ enhancing public health through food ตั้งแต่ปี 1922
แป้งโดที่ผ่านการตัดเป็นเส้นก่อนเข้าเตาอบ
ปัจจุบัน กูลิโกะ ในประเทศญี่ปุ่น ถูกส่งไม้ต่อให้ทายาทเจนเนอเรชัน 3 เพื่อทำให้ธุรกิจและระดับ 3.32 แสนล้านเยนเติบโตต่อทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก จากฐานทัพ 12 ประเทศ ครอบคลุมยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย เช่น ฝรั่งเศส แคนาดา สหรัฐ เกาหลี จีน ไทย อินโดนีเซีย เป็นต้น
ตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของบริษัทมากขึ้น เพราะสามารถทำรายได้สัดส่วน 21.4% แล้วจาก 2 ปีก่อนสัดส่วนต่ำกว่า 20% แม้สินค้าไอศกรีม ขนมหวาน(บิสกิต) จะทำเงินมาก แต่สินค้าสุขภาพ เป็นเรือธงแห่งการเติบโต อย่างกลุ่มนมอัลมอนด์ “โคกะ” เบอร์ 1 ในญี่ปุ่น ที่ขยายตลาดไปหลายประเทศ ทำรายได้สัดสวน 15.2%
“ความภาคภูมิใจของกูลิโกะ คือผู้ก่อตั้งนึกถึงเทรนด์สุขภาพมาตั้งแต่ร้อยปี และปัจจุบันบริษัทยังตอกย้ำสิ่งที่ทำ เพราะ Purpose คือการคำนึงถึงสุขภาพผู้บริโภค ที่ต้องมีความอร่อยด้วย”

อบแท่งบิสกิตแล้วจะมีคล้ายลวดลาย ซึ่งเกิดจากการสัมผัสถาดที่ใช้อบ
ตลาดบิสกิต 17,471 ล้านบาท ยังโต
กูลิโกะ มีสินค้าในพอร์ตโฟลิโอหลากหลาย ภายใต้ 2 หมวด ได้แก่ กลุ่มขนม เช่น ป๊อกกี้ พีจอย เพรทซ์ ไจแอนท์ คาปุลิโกะ โคลอน ฯ และสินค้าสุขภาพ นมอัลมอนด์ “โคกะ”
เจาะลึกพอร์ตใหญ่คือขนม และอยู่ในตลาดบิสกิตมูลค่า 17,471 ล้านบาท ปี 2567 เติบโต 9.8% แนวโน้มปี 2568 คาดการณ์จะเติบโตกว่าปีก่อน
ตลาดบิสกิตหมื่นล้านบาท แต่ยังมีหมวดขนมยิบย่อย ได้แก่ แคร็กเกอร์ 7,000 ล้านบาท เติบโต 7-8% คุกกี้ 4,900 ล้านบาท เติบโต 13% และเวเฟอร์ 6,571 ล้านบาท เติบโต 7-8%
บรรจุลงซองจำนวน 13 แท่ง หรือน้ำหนักสุทธิ 45 กรัม
ไทยฐานทัพสำคัญของโลก
กูลิโกะ มีออฟฟิศใน 12 ประเทศทั่วโลก ไทยถือเป็นฐานทัพธุรกิจที่สำคัญ เพราะไม่เพียงมีโรงงาน 3 โรง แต่ยังมี “ศูนย์วิจัยและพัฒนา”หรือ R&D เป็น 1 ใน 3 แห่งของโลกด้วย
ทั่วโลก บริษัทมีพนักงานกว่า 5,000 ชีวิต ส่วนไทยมีประมาณ 500 ชีวิต สำหรับโรงงานผลิตสินค้าแห่งแรก ตั้งอยู่ย่านรังสิต และโรงงานแห่งที่ 2 อยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี
ลงกล่องก่อนส่งไปแพ็คในกล่องใหญ่
โรงงานที่รังสิตมีเนื้อที่ 10 ไร่ พื้นที่ 17,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) ส่วนที่บางกะดีเนื้อที่ 36 ไร่ พื้นที่ 58,000 ตร.ม. จาก 2 โรงงาน การผลิตสินค้านอกจากป้อนตลาดในประเทศไทย ยังส่งออกไปยังอาเซียน รวมถึง “สหรัฐ” ด้วย
นอกจากเป้าหมายการผลิตสินค้าสร้างการเติบโต บริษัทยังมีเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% และก้าวเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2050