วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PTG ปริมาณยอดขายน้ำมันแตะทำสถิติสูงสุดใน 4Q67F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PTG ปริมาณยอดขายน้ำมันแตะทำสถิติสูงสุดใน 4Q67F

คาดว่ากำไรสุทธิของ PTG ใน 4Q67F จะอยู่ที่ 246 ล้านบาท (-54% YoY, +250% QoQ) โดยกำไรที่ลดลง YoY เป็นเพราะเราคาดว่าค่าการตลาดน้ำมันจะลดลง 13% YoY เหลือ 1.61 บาท/ลิตร

ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นเพราะเราคาดว่าปริมาณยอดขายน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 9% QoQ เป็น 1,720 ล้านลิตร เนื่องจากเป็นช่วง peak ของฤดูท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าค่าการตลาดน้ำมันของ PTG จะลดลง 3% QoQ เหลือ 1.61 บาท/ลิตร เนื่องจาก margin ของน้ำมันดีเซลลดลงหลังจากที่กระทรวง
พลังงานตรึงเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเอาไว้ที่ 23.94 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ใน
ขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันของ PTG จะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากปริมาณยอดขายกาแฟเพิ่มขึ้นหลังจากที่บริษัทเร่งเปิดสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยอีก 221 สาขาใน 4Q67 ทำให้จำนวนสาขาทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20% QoQ เป็น 1,347 สาขา ซึ่งน่าจะช่วยหนุนให้รายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันของ PTG เพิ่มขึ้น 6% QoQ เป็น 4.6 พันล้านบาท ในขณะที่เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันของ PTG จะเพิ่มขึ้น QoQ จาก 21.4% เป็น 22.0%

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F/2568F ลง 16%/4%

เมื่ออิงจากประมาณการ 4Q67F เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F ลง 16% เหลือ 1.0 พันล้าน
บาท และปี 2568F ลง 4% เหลือ 1.2 พันล้านบาท เนื่องจากปรับค่าการตลาดน้ำมันลดลง โดยเราได้ปรับ
สมมติฐานค่าการตลาดน้ำมันของ PTG ปี 2567F ลง 4% เหลือ 1.64 บาท/ลิตร และปี 2568F ลง 2% เหลือ
1.68 บาท/ลิตร จากการที่รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงตลาดน้ำมันค้าปลีก โดยกระทรวงพลังงานตรึงเพดานราคาน้ำมันดีเซลในประเทศไว้ที่ 23.94 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ทำให้ margin ของน้ำมันดีเซลถูกกดเอาไว้ ทั้งนี้น้ำมันดีเซลคิดเป็นประมาณ 70% ของปริมาณยอดขายน้ำมันทั้งหมดของ PTG นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มประมาณการรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (ดังแสดงใน Figure 3)

 

 

เนื่องจากบริษัทเร่งขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทย แต่ในขณะเดียวกันเราก็ปรับเพิ่มประมาณการค่าใช้จ่าย SG&A ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสาขาร้านกาแฟใหม่ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ PTG เปิดสาขาร้านใหม่เพิ่มถึง 465 สาขาในปี 2567F (+53% YoY) ทำให้จำนวนร้านทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 1,347 สาขา ในขณะที่เราคาดว่าบริษัทจะเปิดร้านใหม่เพิ่มอีก 450 สาขาในปี 2568F

Valuation & action

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568F ลงจาก 9.60 บาท เหลือ 8.10 บาท อิงจาก PE ที่ลดลงเหลือ 11.5x
(เทียบเท่า -1.25 S.D.) จากเดิม 13.0x เพื่อสะท้อนถึง i) การปรับลดประมาณการกำไรลง และ ii) ความไม่
แน่นอนจากการที่กระทรวงพลังงานจะออกกฎหมายใหม่เพื่อคุมราคาน้ำมันในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม
เรายังคงคำแนะนำถือ PTG เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q67F จะเพิ่มขึ้น QoQ นอกจากนี้ เรายังคาดว่า
กำไรสุทธิในปี 2568F จะเพิ่มขึ้น 13% YoY เป็น 1.2 พันล้านบาท เนื่องจาก i) คาดปริมาณยอดขายน้ำมัน
จะเพิ่มขึ้นเป็น 7,150 ล้านลิตร (+6% YoY) จากการที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และ ii) คาดค่า
การตลาดน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.67 บาท/ลิตร (+2% YoY)

Risks

ความผันผวนของค่าการตลาดน้ำมัน, ปริมาณยอดขายน้ำมัน, ปริมาณยอดขาย LPG, ปริมาณยอดขายไบ
โอดีเซล และยอดขายร้านสะดวกซื้อ Max Mart

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PTG ปริมาณยอดขายน้ำมันแตะทำสถิติสูงสุดใน 4Q67F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PTG ปริมาณยอดขายน้ำมันแตะทำสถิติสูงสุดใน 4Q67F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PTG ปริมาณยอดขายน้ำมันแตะทำสถิติสูงสุดใน 4Q67F

 

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PTG ปริมาณยอดขายน้ำมันแตะทำสถิติสูงสุดใน 4Q67F

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PTG ปริมาณยอดขายน้ำมันแตะทำสถิติสูงสุดใน 4Q67F