'ภูมิธรรม'แถลงผล Seal Stop Safe ยึดของกลางยาบ้า 37 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 400 กก.
!['ภูมิธรรม'แถลงผล Seal Stop Safe ยึดของกลางยาบ้า 37 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 400 กก.](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2025/02/F7EKSyuY0O6j0Oq9RpDi.webp?x-image-process=style/LG)
"ภูมิธรรม"แถลงผล Seal Stop Safe ครั้งที่ 1 ยึดของกลางยาบ้า 37 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 400 กก. ระบุ ผลการทำงานเป็นไปในทิศทางที่ดี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.พ. ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.ต.ท. สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว และ พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. พร้อมด้วย นาย ศิริสุข ยืนหาญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และพล.ท.ราจน์ กอรี รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสกัดกันและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลปฏิบัติการสกัดกั้น และ ปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาล "Seal Stop Safe"
ผลการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด มีการจับกุมดังนี้
1.ภาคเหนือ บก.ปส.3 มีการเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือตอนบน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ที่อยู่ในเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ สามารถยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 15,600,000 เม็ด ,
2. ภาคเหนือตอนล่าง บก.สกส. มีการเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือตอนล่าง สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ที่อยู่ในกลุ่มชนเผ่าในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมยึดของกลางที่อำพรางโดยใช้กะหล่ำปลีปิดบังเต็มกระบะ เป็นยาบ้าจำนวน 12 ล้านเม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินของกลางอีกประมาณ 1,625,000 บาท
และ 3. ภาคอีสาน บก.สกส. ได้มีการเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคอีสาน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ขณะกำลังลำเลียงยาเสพติดมุ่งหน้าจากจ.นครพนม ไปพื้นที่จ.สกลนคร พร้อมยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 4 ล้านเม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินของกลางประมาณ 660,000 บาท
ผลการตัดตอนสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงใต้ มีการจับกุมดังนี้ 1.บก.ปส.4 มีการเฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ขณะลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่จ.ชุมพร ยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 900,000 เม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินของกลางประมาณ 1,500,000 บาท , 2.บก.สกส. มีการเฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย ขณะกำลังจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลางไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ ตรวจยึดของกลางเป็นไอซ์ 234 กก. ตรวจยึดทรัพย์สินของกลางประมาณ 1,460,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีผลจับกุมผู้ค้ารายสำคัญที่น่าสนใจอีก 4 คดี คือ บก.สกส. มีการเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือ คดีที่ 1 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย และตรวจยึดยาบ้าได้ 297,934 เม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินของกลางประมาณ 820,000 บาท คดีที่ 2 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ยึดไอซ์ได้ 200 กก. ตรวจยึดทรัพย์สินของกลางประมาณ 3.2 ล้านบาท , บก.ปส.3 เฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือตอนบน คดีที่ 3 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ยึดยาบ้าได้จำนวน 2,544,000 เม็ด และบก.ปส.4 เฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคอีสาน คดีที่ 4 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ยึดยาบ้าได้จำนวน 1,994,000 เม็ด
เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้แจ้งข่าวอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อได้ข้อมูลมาก็ต้องรักษาไว้ เพราะเป็นจุดสำคัญ ดังนั้นขอให้มั่นใจว่าเราจะดูแลอย่างเต็มที่ และข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับ ส่วนมาตรการป้องกันตามตะเข็บชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานที่พบว่ามีการลำเลียงขนยาเสพติดผ่านแม่น้ำโขงนั้น ก็จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการตรวจตรา และหาความร่วมมือจากภาคประชาชนด้วย ส่วนในเรื่องของอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่ใช้ในการตรวจจับ ก็จะเป็นเรื่องของทางรัฐบาลที่จะคอยทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่จากการที่หลายหน่วยงานร่วมบูรณาการกันในการปราบปรามยาเสพติดเพียงระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน พบว่าผลงานที่ออกมาเป็นไปในทิศทางที่ดี และเชื่อว่าอนาคตจะดียิ่งขึ้น
ถามต่อว่า เอกชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ติดชายแดน หากพบว่ามีการใช้กระบวนการลักลอบคนข้ามประเทศ จะมีการประสานเอกชนและมีการปราบปรามอย่างไร นายภูมิธรรม ระบุว่า หากพบว่าใครที่เกี่ยวพันกันจะจัดการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เอกชน หรืออะไรก็ตาม เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นภัยร้ายแรงที่เป็นภัยความมั่นคงของประเทศ ฉะนั้นอะไรที่ตรวจสอบพบได้ชัดเจนจะจัดการอย่างเด็ดขาด.