'มรกต กุลธรรมโยธิน' ดันไอเน็ต สู่อินฟราสตรักเจอร์ คอมปะนี

ภาวะขาลงของอินเทอร์เน็ต เซอร์วิสโพรไวเดอร์ (ไอเอสพี) และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ผู้ประกอบการสักรายโดยเฉพาะที่มีตราประทับว่า "ขาดทุน" จะพลิกฟื้นกลับมาได้ง่ายๆ

แต่นั่นอาจไม่ใช่ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเน็ต ที่จนวันนี้ยังยืนยันจะลุยต่อ "นางมรกต กุลธรรมโยธิน" กรรมการผู้จัดการคนล่าสุด ซึ่งรับตำแหน่งครบ 1 ปีเต็มนับจากเดือน เม.ย.2556 เล่าว่า เริ่มปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจมากว่า 3 ปี นับตั้งแต่ประสบภาวะขาดทุน ประเด็นสำคัญหันมาทบทวนพร้อมปรับโฟกัสแนวทางทำธุรกิจใหม่ โดยดึงจุดแข็งด้านระบบเน็ตเวิร์คและดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีออกใช้ให้ได้มากที่สุด

เธอย้ำว่า จุดยืนของบริษัท คือ “อินฟราสตรักเจอร์ เซอร์วิส โพรไวเดอร์” ขณะเดียวกันวางไว้เป็น "เลิร์นนิ่ง คอมปะนี" ที่พร้อมแสวงหาความรู้ใหม่ๆ หากมีสิ่งใดยังไม่ดีพอก็พร้อมปรับตัวให้ดีขึ้น รวมถึงสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง

“บนโลกไอทีที่เปลี่ยนแปลงไปการเป็นแค่ผู้ให้บริการไอเอสพีเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ เราจึงเบนเข็มสู่กระแสใหม่ที่มีโอกาสเติบโตก้าวกระโดด ถึงวันนี้มั่นใจว่ามีความพร้อมเต็มที่ เรียกได้ว่าเรื่องอินฟราสตรักเจอร์ต้องยกให้เรา ส่วนเวลาที่มีขอให้ไปทุ่มเทกับคอร์บิสิเนสอย่างเต็มที่”

ปั้นคลาวด์สร้างรายได้

เอ็มดีไอเน็ตกล่าวว่า เร่งสานต่องานที่ทำมาต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ใช้งบลงทุนไปกว่า 600 ล้านบาทพัฒนาอินฟราสตรักเจอร์ เน็ตเวิร์ค บริการคลาวด์ และปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์เดิมให้ทันสมัย ส่วนแผนงานปีนี้พร้อมลงทุนต่อเนื่อง เฉพาะบริการคลาวด์ที่วางไว้เป็นตัวจักรสำคัญในการสร้างรายได้คาดว่าจะใช้อีกไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ พัฒนามาตรฐานทุกกลุ่มธุรกิจทั้งเน็ตเวิร์ค คลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ และระบบบริหารจัดการต่างๆ ให้เป็นสากล

โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจยกระดับการให้บริการให้ดีขึ้นต่อเนื่อง

บริษัทมีศูนย์ไอดีซี 2 ศูนย์ ที่อาคารบางกอกไทยและไทยซัมมิท รวมพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร เฟสต่อไปด้วยพื้นที่กรุงเทพฯ มีทั้งข้อดีและข้อเสียจึงมีแนวคิดที่จะขยายต่อออกไปในพื้นที่ต่างจังหวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินความเหมาะสมโดยจะอิงตามความต้องการที่เกิดขึ้นจริงของลูกค้า หากมีความชัดเจนเบื้องต้นจะพิจารณาจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ระยะทางไม่เกิน 100 กม.

สำหรับแนวทางการทำตลาด ด้วยสภาพตลาดปัจจุบันและมองในมุมกว้างต้องยอมรับว่าคลาวด์ยังเป็นเรื่องที่ใหม่มากในไทย ดังนั้นเพื่อปูทางสำหรับก้าวต่อๆ ไป มุ่งให้ความรู้ตลาดพร้อมเรียนรู้ไปกับลูกค้า ขณะเดียวกันจัดเซ็กเม้นท์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้ชัดเจนคือระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์และขนาดกลาง ด้านช่องทางการจำหน่ายเน้นเข้าไปพูดคุยโดยตรง

มองเกมให้ขาด

เธอกล่าวต่อว่า ไอเน็ตยึดมั่นกับการทำความเข้าใจความต้องการที่มีอยู่หลากหลาย พร้อมพิจารณาว่าสิ่งที่มีอยู่จะช่วยเข้าไปเติมเต็มได้อย่างไร ที่ผ่านมาพบว่าเมื่อลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและต่างมีความเข้าใจที่ตรงกันการชักชวนให้ลงทุนทำได้ง่ายขึ้น จากนี้ยังมีแผนนำบริการรูปแบบใหม่ๆ ออกเปิดตลาดมากขึ้นตามลำดับ

อีกหนึ่งงานที่ทำคู่ขนานกันไปคือร่วมมือพันธมิตรและสถาบันการศึกษาพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพออกมาป้อนตลาด เชื่อว่าหากทำได้ดีประโยชน์ย่อมเกิดขึ้นต่อบริษัท และหากทำได้จำนวนมากแม้ไปทำงานกับรายอื่นย่อมส่งผลดีต่อภาพรวมทั้งอุตสาหกรรม

มรกต มีมุมมองว่า ผู้ให้บริการต้องมองโรดแมพของเทคโนโลยีให้ขาดเพื่อตอบสนองโลกยุคใหม่ที่เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเข้ามามีอิทธิพลต่อธุรกิจ ประเด็นนี้ปัจจัยที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ต้องมีเน็ตเวิร์คที่ดี ระบบที่มั่นคงปลอดภัยเพื่อว่าจะได้ปิดจุดอ่อนและเตรียมความพร้อมให้เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด สร้างความต่อเนื่องให้ธุรกิจได้มากที่สุด

อย่างไรก็ดี เข้าใจว่าสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้อาจทุ่มงบประมาณการลงทุนไม่ได้มาก หรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ทว่าอย่าลืมว่าหลายๆ กรณีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าไอทีมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและการเติบโตของธุรกิจ

ปลดแอกขาดทุนสะสม

มรกต บอกว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ยากจนเกินไป แต่เป็นความท้าทายและโจทย์ที่ต้องผ่านไปให้ได้ จากนี้จะทุ่มเทพละกำลังทั้งหมดทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด พูดได้ว่าหากเป็นนักเรียนก็จะไม่กลัวการสอบตก หากรู้ว่าพลาดก็พร้อมลงมือทำใหม่ แต่เมื่อผิดแล้วจะไม่ยอมผิดซ้ำจุดเดิมๆ

บริษัทตั้งเป้าปี 2557 ผลประกอบการเติบโต 30% จากปี 2556 ที่ทำได้ราว 380 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิหวังไว้ที่ 10% ทั้งคาดด้วยว่าหากภาวะการเมืองนิ่ง เศรษฐกิจมีเสถียรภาพบริษัทจะสามารถทำให้ภาวะขาดทุนสะสมหมดไปได้ภายในต้นปี 2558

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของไอเน็ตมาจากธุรกิจไอดีซี 25% อินเทอร์เน็ต 25% บริการคลาวด์ 25% อื่นๆ อีก 25% ทว่าปีนี้มั่นใจว่าธุรกิจคลาวด์จะเติบโตได้เป็นเท่าตัว ก้าวต่อไปหวังพัฒนาตัวเองไปสู่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแอสอะเซอร์วิสพร้อมเพิ่มบริการซอฟต์แวร์โซลูชั่นครบวงจร

“ไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่วันแรก ดังนั้นจะไม่ยอมท้อถอย เรื่องขาดทุนสะสมไม่ได้นิ่งนอนใจทั้งยังรู้สึกไม่ดีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้แม้ไม่อาจให้คำมั่นที่ชัดเจนได้ว่าจะทำสำเร็จเมื่อใด แต่ขอสัญญาว่าจะทำอย่างเต็มที่”

ปรับทิศมุ่งเอกชน

ด้านสถานการณ์ตลาดและการลงทุนในภาพรวมเธอประเมินว่า ยังรอลุ้นสถานการณ์การเมืองโดยหากไม่นิ่งโดยเร็ว ในระยะยาวมีโอกาสส่งผลกระทบต่อการใช้งบลงทุนของลูกค้าทุกกลุ่ม สำหรับแนวทางการปรับตัวของไอเน็ตหันไปเน้นตลาดเอกชนที่มีเสถียรภาพมากกว่า ด้านอื่นๆ วางแผนลงทุนอย่างระมัดระวัง พยายามสร้างการเติบโตให้ไม่น้อยกว่าภาพรวมตลาด

ขณะนี้ทั้งการบริหารจัดการและสถานะการเงินของบริษัทยังสามารถควบคุมได้ดี ยอมรับว่าทุกวันนี้การคาดคะเนเหตุการณ์ทำได้ยากมาก ทว่าเตรียมแผนหนึ่ง สอง และสามรองรับไว้อยู่แล้ว

ส่วนความยากของธุรกิจคือทำอย่างไรจะสามารถนำนวัตกรรมมาประยุกต์ให้เกิดเป็นบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า การวางแผนธุรกิจต้องทำล่วงหน้าไปอย่างน้อย 2-3 ปี ไม่ว่าจะลงมือทำอะไรใช้ผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นที่ตั้ง และประเมินตนเองอยู่เสมอว่ามีขีดจำกัดแค่ไหน อย่างไร

“เป้าหมายของเราคือสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยบริการที่มีมาตรฐาน ราคาไม่แพงจนเกินไป ขณะนี้มั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว ดังนั้นหากโอกาสเข้ามาก็พร้อมวิ่งเข้าใส่อย่างเต็มที่” มรกต กล่าว