จี้ตร.เร่งดำเนินคดีเฟซบุ๊คหมิ่นเบื้องสูง

จากกรณีที่มีเฟซบุ๊คบุคคลหนึ่ง ใช้ชื่อว่า "รุ่งนภา คำภิชัย"มีการโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง จนการเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กระทั่งเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา นางสาวรุ่งนภา คำภิชัย เจ้าของชื่อตัวจริงได้ออกมาปฎิเสธ โดยอ้างว่าโดนกลั่นแกล้ง มีการปลอมแปลงเฟซบุ๊ค โดยใช้ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของตน และได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. ที่สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้มีกลุ่มเฟซบุ๊คเชียงใหม่ กว่า 15 คนนำโดยนายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร ตัวแทนกลุ่ม เข้าแสดงพลังปกป้องสถาบันและแจ้งความร้องเรียน รวมทั้งให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเร่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่หมิ่นเบื้องสูง

นายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร ตัวแทนกลุ่มเฟซบุ๊คเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เครือข่ายของกลุ่มเฟซบุ๊คเชียงใหม่ มีสมาชิกกว่า 18,000 คน ได้มีการพูดคุยปรึกษาแลกเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เหนือสิ่งอื่นใดคือความรักในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีความเห็นตรงกันว่า ถึงเวลาที่คนเชียงใหม่ส่วนใหญ่ที่มีความรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องออกมาปกป้องสถาบันที่เคารพเทิดทูน จากการที่มีผู้ไม่ประสงค์ดีโพสต์รูป วีดีโอ หรือข้อความใดๆ ที่มีความหมายส่อเสียด จาบจ้วงสถาบัน

ในวันนี้ทางกลุ่มต้องการให้มีการดำเนินการกับบุคคลที่จ้าบจ้วง และหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะในกรณีเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า “รุ่งนภา คำภิชัย”ทราบว่าเป็นคนเชียงใหม่ ที่มีการโพสต์ข้อความเข้าข่ายอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าเจ้าของชื่อรุ่งนภา คำภิชัยจะมีการติดต่อมาว่ามีการถูกกลั่นแกล้ง ปลอมแปลงเฟซบุ๊ค ก็ตาม

"กลุ่มบุคคลที่มีการจาบจ้วงสถาบันนั้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบุคคล มีการปกปิด ช่วยเหลือกันเป็นเครือข่ายเพื่อบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อบัดนี้ทางกลุ่มเฟซบุ๊คเชียงใหม่ทราบว่ากลุ่มบุคคลเหล่านั้นเป็นชาวเชียงใหม่เช่นเดียวกัน จึงคิดว่าจะต้องมีการแสดงออกและต้องมีการดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้นอย่างเร่งด่วน รวมทั้งแสดงพลังให้เห็นว่ายังมีชาวเชียงใหม่โดยกำเนิด และคนที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่เชียงใหม่ ที่มีความรักชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ และไม่อยู่นิ่งเฉย พร้อมที่จะปกป้องสถาบัน"นายกฤตย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางสาวรุ่งนภา คำภิชัย ได้มีการติดต่อกับทางกลุ่มเฟซบุ๊คเชียงใหม่ เพื่อจะออกมายืนยันและแก้ข่าวพร้อมกับทางกลุ่มเฟซบุ๊คเชียงใหม่ ในเวลาดังกล่าวว่าตนไม่ใช่ผู้ที่โพสหมิ่นสถาบันจริง เป็นผู้ที่ถูกทำให้เสื่อมเสีย แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายจริง นางสาวรุ่งนภา กลับไม่ออกมาแสดงตัวแต่อย่างใด