เสือไฟกัดช้างตาย
พบช้างพังล้มตาย เชื่อมาจากถูกเสือไฟแม่ลูกอ่อนกัดตาย หลังจากแพทย์ใช้ความพยายามในการรักษา
ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านห้วยน้ำดำ หมู่ 4 ต.เขาปูน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ว่า ได้มีช้างพังล้มตาย 1 เชือก เนื่องจากถูกสัตว์ป่าซึ่งเข้าใจว่าเป็นเสือไฟ หรือภาษาถิ่นเรียกว่า “คางคูด” เข้ามากัดทำร้ายเมื่อประมาณ 10 วันที่ผ่านมา จนกระทั่งได้ล้มตายลงในที่สุด เมื่อไปถึงพบนายสุทัศน์ เมฆหมอก อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177/1 หมู่ 2 ต.ท่างิ้ว ซึ่งเป็นเจ้าของช้างและชาวบ้านในพื้นที่ไปมุงดูจำนวนมาก
โดยพบช้างล้มนอนหงายเท้าชี้ฟ้าอยู่ริมสวนยางพาราที่มีลักษณะเป็นเนินพื้นล่างเป็นหุบเหวลึก ตามร่างกายพบมีการใช้ยารักษาบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง เช่น บริเวณโคนขาหลังทั้ง 2 ข้าง บริเวณลำตัว ใบหู ใต้ดวงตา งวง ลำคอ โดยบาดแผลบางแห่งมีลักษณะเป็นแผลฉกรรจ์ฉีกขาดเป็นทางยาวและหลายแห่งเป็นรูลึก ลักษณะเหมือนรอยเขี้ยวและรอยเล็บ ขอบตามีรอยทะลุ ใบหูทะลุ
ด้านนายสุทัศน์ เมฆหมอก เจ้าของช้าง กล่าวว่า ช้างที่ล้มชื่อ “พังสมพร” อายุ 47 ปี น้ำหนักกว่า 3,000 กิโลกรัม โดยตนเองซื้อมาในราคา 1.4 ล้านบาท เมื่อประมาณ 11 ปีก่อน เพื่อนำมารับจ้างชักลากไม้ โดยเมื่อประมาณ 10 กว่าวันที่ผ่านมา ช้างได้รับบาดเจ็บจากสัตว์ป่าเข้ามากัดทำร้าย หลังจากที่ตนเองนำไปล่ามโซ่ไว้ภายในบริเวณป่าไสว่างเปล่า บ้านสวนพริก ม.6 ต.เขาปูน โดยชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้ยินเสียงช้างร้องแต่เข้าใจว่าช้างตกมันจึงได้พากันวิ่งหนี จนกระทั่งโซ่ที่ล่ามไว้ขาดพังสมพรจึงวิ่งหนีไปอาศัยอยู่ในป่าบริเวณด้านหลังที่ว่าการอำเภอห้วยยอด ในสภาพมีบาดแผลฉกรรจ์และร่องรอยฉีกขาดจากกรงเล็บตามร่างกายหลายแผล
เมื่อตนเองทราบจึงไปนำกลับมาได้ เมื่อย้อนกลับไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบมีรอยเท้าของสัตว์ป่าชนิดเดียวกัน 2 ขนาด คือ รอยขนาดใหญ่และรอยขนาดเล็ก ทำให้เข้าใจว่าน่าจะเป็นรอยของเสือไฟที่อาจจะพาลูกลงมาหากินและพบเจอช้างจึงเข้าตะครุบทำร้ายหวังจะกัดกินแต่ช้างถูกล่ามโซ่ไว้จึงไม่สามารถจะช่วยเหลือตัวเองหรือทำร้ายเสือไฟตัวดังกล่าวได้ และดิ้นรนหลบหนีจนโซ่ขาดและหนีไปโดยที่พังสมพรได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากเกิดเหตุตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอและแพทย์จากโรงพยาบาลช้าง จ.กระบี่ มาทำการฉีดยาและให้การรักษา จากนั้นได้นำมาผูกไว้ที่บริเวณบ้านห้วยน้ำดำและล้มตายในที่สุด คงเนื่องจากอาการอักเสบจากบาดแผลและติดเชื้อในอวัยวะภายใน โดยแพทย์ก็ยืนยันได้แค่ว่าบาดแผลดังกล่าวน่าจะเกิดสัตว์ร้ายที่เล็บมีพิษ แต่ชาวบ้านทั่วไปเข้าใจว่า น่าจะเป็นฝีมือของเสือไฟแม่ลูกอ่อนที่ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุเข้าไปขย้ำหมูของชาวบ้านใน ต.เขาไพร อ.รัษฎา จนตาย และควักเอาเฉพาะส่วนของหัวใจและตับไปกิน เมื่อประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งนี้พื้นที่ ต.เขาปูน ก็อยู่ใกล้เทือกเชาบรรทัด
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าของช้างได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูป มาประกอบพิธีทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่พังสมพรก่อนที่จะว่าจ้างรถแบ็คโฮมาขุดหลุมและฝังไว้ริมป่าจุดเกิดเหตุ สร้างความเสียใจให้แก่เจ้าของช้างเป็นอย่างมาก เนื่องจากพังสมพร อายุเพียงแค่ 47 ปี ถือว่ายังเป็นช้างวัยหนุ่มสาวที่สามารถทำงานชักลากไม้ให้แก่เจ้าของได้