รวบ'ยากูซ่า' ชี้ตัวการสำคัญ คดีฉ้อโกงสูญ85ล้านเยน
ตร.ไทย แถลงจับกุม"ยากูซ่า" หนีคดีกบดานไทย ชี้ตัวการสำคัญแก๊งใหญ่ คดีฉ้อโกง85 ล้านเยน รวมเสียหายหมื่นล้านที่ญี่ปุ่น
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รองผบช.น.พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น.พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6พล.ต.ต.รณกร ศุภสมุทร ผบก.ประจำภ.3ปฏิบัติหน้าที่ผบก.ประจำสำนักงานผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ภีมเสน ขจรประศาสน์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.รวีโรจน์ เปล่งศรียศภัทร รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.ศิรณวิชญ์ อินทร สว.กก.สายตรวจ ร.ต.ต.ธวัชชัย แตงอ่อน
ร่วมแถลงผลการจับกุม นายชินอิจิ นากาตะ อายุ 34 ปี สัญชาติญี่ปุ่น หนังสือเดินทางหมายเลขTL0008384 โดยสามารถจับกุมได้บริเวณคอนโดเจดับบลิว ซอยบัวขาวถ.พัทยากลาง ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวได้รับอนุญาตเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และอยู่ในราชอาณาจักรโดยใบอนุญาตสิ้นสุด
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่24ก.พ.ที่ผ่านมา นายไทชิ อากิโมโตะ เลขานุการเอก และหัวหน้านายตำรวจประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับนายชินโกะ ซุกิอุระ เลขานุการโท ,ผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. เพื่อขอให้ติดตามตัวนายชินอิจิ นากาตะ อายุ 34 ปี สัญชาติญี่ปุ่น หนังสือเดินทางหมายเลขTL0008384 ที่ทางการญี่ปุ่นต้องการตัว เนื่องจากกลุ่มนายชินอิจิได้กระทำการฉ้อโกง โดยการโทรศัพท์ไปหาเหยื่อ เพื่อให้โอนเงินซื้อขายพันธบัตร เมื่อช่วงวันที่7เม.ย.-31ก.ค.57ที่ผ่านมา โดยเหยื่อสูญเงินไปกว่า 85 ล้านเยน หรือ ประมาณ 22 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อวันที่15พ.ย.57ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลญี่ปุ่นได้ออกหมายจับและทำการจับกุมแก๊งของนายชินอิจิ ได้ผู้ต้องหาจำนวน 21 คน ซึ่งนายชินอิจิเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา และได้หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลญี่ปุ่นมากกบดานที่ประเทศไทย
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุด191 ลงพื้นที่ต้องสงสัย เพื่อตามหานายชินอิจิ ที่ทางการญี่ปุ่นต้องการตัว ล่าสุดวันที่28ก.พ.ที่ี่ผ่านมา เวลาประมาณ17.30น. พ.ต.ท.ศิรณวิญ์ อิทร สว.กก.สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน191 พบตัวนายชินอิจิ บริเวณซอยบัวขาวถ.พัทยากลาง ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่กก.สายตรวจ 191
จากการสอบสวนทราบว่าแก๊งที่นายชินอิจิทำงานให้นั้น ชื่อว่าแก๊งซึมิโยชิ มีสมาชิกกว่า 6,000 คน นับว่าเป็นแก๊งที่ใหญ่อันดับ2ของประเทศญี่ปุ่น โดยการก่อเหตุของแก๊งนี้สร้างมูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงินไทยกว่า 10,500 ล้านบาทซึ่งการก่อเหตุแต่ละครั้ง
ผู้ต้องหาจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุ และแฝงตัวเป็นคอเซ็นเตอร์ติดต่อไปหาเหยื่อ พยายามพูดจาโน้มน้าวจนกระทั่งหลอกเอาเงินจากเหยื่อกว่า 25 ล้านเยนต่อรายไปได้
ทั้งนี้พบว่าวีซ่าของนายชินอิจิหมดอายุแล้ว จึงนำตัวส่งสน.ประชาชื่นดำเนินการ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลญี่ปุ่นได้มาทำการสอบสวนนายชินอิจิ และดำเนินการขอรับตัวนายชินอิจิไปดำเนินการตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตามในวันนี้( 2 มี.ค.)จะนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลอาญารัชดา และจะนำตัวไปควบคุมที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ซึ่งภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 วัน ทางการญี่ปุ่นจะมารับตัวไปดำเนินคดีที่ญี่ปุ่นต่อไป