'ทหาร-ตำรวจ-ครู'เฮ! สนช.ผ่านฉลุยขึ้นเงินเดือน
สนช. ผ่านฉลุยกฎหมายขึ้นเงินเดือน ขรก.ทหาร-ตำรวจ-ครู-รัฐสภา’เฮ! เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ
ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธาน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบวาระ 3 ร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับเงินเดือนของข้าราชการจำนวน 4 ฉบับ ประกอบด้วยร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่...) พ.ศ.... ด้วยคะแนน 163คะแนน, ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่....) พ.ศ....168คะแนน
,ร่างพ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่....) พ.ศ... 182คะแนน และร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา (ฉบับที่ ... ) พ.ศ... 185คะแนน เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งร่างพ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับมีสาระสำคัญคือ เป็นการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการให้เหมาะสมเป็นธรรมและได้มาตรฐาน โดยคำนึงถึงค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลงไป ค่าตอบแทนในภาคเอกชน ฐานะการคลังของประเทศ ความแตกต่างระหว่างรายได้ของข้าราชการระดับต่างๆ ในประเภทเดียวกันและต่างประเภทกัน และปัจจัยอื่นที่จำเป็น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน รอบที่6 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน และตารางข้อผูกพันเฉพาะสำหรับการค้า บริการด้านการเงินภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียนโดยพิธีสารฉบับนี้มีสาระสำคัญคือขยายความร่วมมือด้านการค้าบริการระหว่างประเทศสมาชิก
โดยลด/ยกเลิกข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าบริการภายใต้กรอบอาเซียนให้มากกว่าที่เปิดเสรีตามกรอบองค์การการค้าโลกซึ่งได้ปรับปรุงตารางข้อผูกพันเฉพาะ (Schedule of Specific Commitments: SOC)ใน2สาขา ได้แก่ สาขาประกันภัย และสาขาการธนาคารโดยในสาขาประกันภัยได้ปรับเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติของบริการนายหน้าและตัวแทน ในMode 3 (การจัดตั้งธุรกิจ)
จากเดิมที่จำกัดไว้ไม่เกินร้อยละ ๒๕ ของทุนจดทะเบียน เป็นร้อยละ ๔๙ ของทุนจดทะเบียนเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและแนวปฏิบัติในปัจจุบัน ส่วนสาขาการธนาคารปรับปรุงตารางข้อผูกพัน สาขาย่อยธนาคารพาณิชย์ในMode 3ให้สอดคล้องกับกฎหมายและแนวปฏิบัติในปัจจุบันยกเลิกข้อจำกัดด้านจำนวนบุคลากรสำหรับบุคคลสัญชาติอาเซียน (Mode 4)โดยให้เป็นไปตามแผนของธุรกิจ แต่ยังต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราวปี2557