'กะเพราไก่ไข่ดาว'เมนูแชมป์ทำโลกร้อนสูงสุด
"จรัมพร" เผย เมนู "กะเพราไก่ไข่ดาว" สร้างภาวะโลกร้อนสูงสุด ขณะที่ "มัสมั่นไก่" รั้งท้าย ยันไม่ยกเลิกเสิร์ฟ เพราะเป็นเมนูฮิต
นายจรัมพรโชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบินไทยได้นำเมนูอาหารที่ให้บริการบนเครื่องการบินไทย เข้าร่วมโครงการคาร์บอนฟุตพรินท์กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก โดยพบว่าเมนูข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวเป็นเมนูที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งผลต่อภาวะโลกร้อนสูงสุด 1,320 กรัมต่อจานรองลงมาเป็นข้าวแกงเขียวหวานไก่กับกุนเชียงหมู 1,180 กรัม ข้าวพะแนงไก่กับคะน้ากระเทียม 1,040 กรัม ข้าวแกงเผ็ดไก่ใส่ฟักกับผัดคะน้ากระเทียม 964 กรัมส่วนข้าวมัสมั่นไก่กับถั่วลันเตาผัดกระเทียมปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยสุด 957 กรัม
“ขณะนี้การบินไทยได้นำร่อง 5 เมนูเข้าโครงการก่อน และหลังจากนี้จะนำเมนูอื่นๆเข้าไปร่วมจัดอันดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มอีก เพื่อให้ผู้โดยสารและการบินไทย มีส่วนร่วมตระหนัก และช่วยลดภาระโลกร้อนด้วยกันแต่ในส่วนของเมนูกระเพราไก่ แม้จะสร้างภาวะโลกร้อนมากสุดในตอนนี้แต่การบินไทยคงไม่ยกเลิกเมนูนี้ เพราะถือเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทยที่มีคนชอบมากจึงได้สั่งให้ฝ่ายครัวการบินไทยและผู้เกี่ยวข้องไปหาวิธีการทำกระเพราที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือน้อยที่สุด”
ทั้งนี้ 5 เมนูอาหารที่เข้าร่วมโครงการคาร์บอนฟุตพรินซ์จะมีการเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่เดือนเม.ย.58 เป็นต้นไปโดยจะมีสัญลักษณ์รูปฉลากคาร์บอนฟุตพรินซ์ พร้อมรายละเอียดไว้ในเมนูอาหารและหมุนเวียนให้บริการแก่ผู้โดยสารระหว่างประเทศ เช่น เที่ยวบินไปลอนดอนแฟรงก์เฟิร์ต ปารีส โคเปนเฮเกน โรม เดมปาซาร์ และกัวลาลัมเปอร์โดยภาพรวมการผลิตอาหารของครัวการบินไทยเฉลี่ย 5 หมื่นจานต่อวัน หรือ 20ล้านจานต่อปี โดยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเฉลี่ยจานละ 1,000 กรัมซึ่งหลังจากการเข้าร่วมโครงการนี้คาดหวังว่าจะทำให้ปริมาณการสร้างก๊าซคาร์บอนเหลือน้อยลง
นายจรัมพรกล่าวว่าขณะนี้การบินไทยกำลังเร่งปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานอาหารที่ให้บริการบนเครื่องบินหลังจากมีผู้โดยสารร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงนำเมนูอาหาร 5ดาวขึ้นไปให้บริการตั้งแต่เดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ พร้อมกับตั้งเป้าหมายยกระดับอาหารที่ให้บริการบนเครื่องบินของการบินไทยเป็นสายการบินอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน จากปัจจุบันอยู่อันดับ 3แซงหน้าสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ภายในต้นปีหน้า
สำหรับการทำคาร์บอนฟุตพรินซ์เป็นการแสดงถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาในกระบวนการผลิตอาหารตั้งแต่การได้มาของวัตถุดิบ การผลิต การขนส่งจนถึงผู้บริโภค การใช้งานและการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้งาน โดยแสดงผลต่อหน่วยผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปสู่การลดการใช้พลังงาน