ไทย-เมียนมา ลงนาม ยกเลิกวีซ่า14วัน
รมว.ต่างประเทศไทย-เมียนมา ร่วมหารือทวิภาคีพัฒนาสองประเทศในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ก่อนการลงนามยกเลิกวีซ่า14วัน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ที่โรงแรมแชงกลีลา เชียงใหม่ ได้มีการจัดการประชุมครั้งที่8 Meeting of the Joint Commission for Bilateral Cooperation ระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อทำพิธีลงนาม การยกเว้นวีซ่าคนไทยเข้าประเทศ 14 วัน โดยมี พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมลงนามในพิธี โดยมีพลเอก ธนะศักดิ์ ได้กล่าวต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่จากทางรัฐบาลเมียนมา
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกการต่างประเทศ กล่าวว่า วาระการประชุม พลเอก ธนะศักดิ์ ได้แสดงความมุ่งมั้นที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางด้านทวิภาคีให้มีความแน่นแฟ้นและขยายความร่วมือในทุกมิติเพื่อเตรียมการต้อนรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งทางสหภาพเมียนมาได้ให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนเป็นอย่างดี ทางด้าน นายวันนะ หม่อง ลวิน ก็ได้เล็งเห็นถึงความสัมพันธืกับประเทศไทยที่มีมายาวนานและมีความใกล้ชิดกัน ทำให้กระประชุมในครั้งนี้เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกันมากขึ้น
โดยในวันนี้ได้หารือในประเด็นความร่วมมือทวิภาคีต่างๆ ใน 3 ด้าน ได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจและสังคม และความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ในเรื่องความมั่นคง โดยประเทศไทยจะให้การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในเมียนมาและยกระดับจุดผ่านแดน ส่งกลับผู้หนีภัยจากการสู้รบเมื่อมีความพร้อม และร่วมมือกันในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข่าวสารกันตลอดแนวชายแดน รวมทั้งแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
ทางด้านเศรษฐกิจ ได้มีการหารือเรื่องการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศโดยได้ตั้งเป้าจะเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนเป็น 10 - 12 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2560 พร้อมทั้งมุ่งเน้นการค้าการลงทุนบริเวณชายแดน เน้นการพัฒนาส่งเสริมการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม จัดตั้งคณะทำงานด้านการเชื่อมโยงทางบกและจัดทำความตกลงด้านการขนส่งข้ามแดน และบันทึกความเข้าใจในเรื่องการเดินรถโดยสารระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและการค้าการลงทุน
ในด้านแรงงาน จะได้มีการพัฒนาในสาขาพัฒนาและการจัดการด้านประมงอย่างยั้งยืน โดยฝ่ายรัฐบาลเมียนมายินดีต่ออายุสิทธิทำประมงให้กับคนไทยที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ทางรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำให้ความสำคัญของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวาย ในด้านสังคมและวัฒนธรรมทางประเทศไทยจะได้มีการพัฒนาในด้านสาธารณสุข การท่องเที่ยว และการพัฒนาบุคลากรให้กับทางเมียมารเพื่อเพิ่มความสามารถเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของเมียนมาร
ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นวาระการประชุมได้มีพิธีการลงนามความตกลงว่าด้วย การยกเว้นการตรวจลงตรา สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาแก่ผู้ที่เดินทางโดยสายทางเครื่องบิน โดยยกเว้นการตรวจลงตราให้อาศัยอยู่ในเมียนมาได้ 14 วัน โดยที่ไม่ต้องมีวีซ่าซึ่งมีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไปแต่จะต้องเป็นการโดยสารทางอากาศเท่านั้น ทั้งนี้ภาพวาระการประชุม JC ครั้งที่28 นี้นับว่าประสบความสำเร็จโดยอยู่บนการหารือบนความสัมพันธ์ที่มีประโยชน์ร่วมกันทั้งสองประเทศ