ออมสินมั่นใจสินเชื่อ-เงินฝากปีนี้โต4-5%ตามเป้า
ธนาคารออมสิน มั่นใจสินเชื่อ - เงินฝากปีนี้โต 4-5% ตามเป้า ส่วนปีหน้าคาดโต 4-6% พร้อมตั้งเป้าลด NPL สิ้นปีให้อยู่ที่ 1.6-1.7% จากปัจจุบันที่
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 4.6% และไตรมาส 2 อยู่ที่ 4.3% ส่งผลให้ทั้งปีนี้คาดว่าสินเชื่อจะขยายตัวได้ 4-5% เช่นเดียวกับเงินฝากที่คาดว่าทั้งปีจะเติบโตในตัวเลขระดับเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.7% ส่วนในปีหน้าหากเศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ 3-4% จะทำให้สินเชื่อของธนาคารขยายตัวได้ 4-6% ซึ่งถือว่าดีขึ้นกว่าปีนี้ แต่ทั้งนี้ ต้องติดตามสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงที่ 85-86% ของจีดีพี ซึ่งส่งผลให้ธนาคารมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ของธนาคารปัจจุบันอยู่ที่ 2% แต่จะพยายามจะปรับลดลงให้ได้ที่ 1.6-1.7% ในสิ้นปีนี้ ขณะที่เอ็นพีแอลทั้งระบบอยู่ที่ 5% ส่วนการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งสำรองเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการตั้งสำรองสำหรับการปล่อยสินเชื่อในแต่ละประเภทไว้เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องติดตามดูผลประกอบการในช่วงสิ้นปีอีกครั้ง
ทั้งนี้ตัวเลขการออมไตรมาสแรกปีนี้ของธนาคารอยู่ที่ 1.16 ล้านล้านบาท โดยมีการแบ่งไปลงทุน 7 แสนล้านบาท ส่งผลให้เหลือเงินออมสุทธิ 2.9 แสนล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2 การออมปรับตัวลดลง 26% โดยการออมอยู่ที่ 7.6 แสนล้านบาท นำไปลงทุน 7.3 แสนล้านบาท ส่งผลให้เหลือเงินออมสุทธิ 30,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เงินออมที่ปรับตัวลดลงนั้น เกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ จากปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ความสามารถในการออมลดลง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ 1.5% จึงส่งผลให้ประชาชนหันไปลงทุนในตลาดตราสารหนี้ และตลาดทุนไทยแทน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การออมในช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้ จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ยอมรับว่าทั้งปีการออมจะขยายตัวได้ 4-5%
สำหรับการสนับสนุนการออมของประชาชน ธนาคารออมสินจะพยายามสนับสนุนให้เกิดการออมมากขึ้น โดยในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เป็นวันออมแห่งชาติ ที่จะมีการส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินมากขึ้น ขณะที่การส่งเสริมเยาวชนให้ออมเงินนั้น ธนาคารออมสินมีโครงการออมเพื่อน้อง ผ่านธนาคารโรงเรียนกว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ ที่จะส่งเสริมให้เด็กมีการออมเงินตามเป้าหมาย เพื่อรับทุนการศึกษา รวม 35 ล้านบาท และได้รับใบประกาศเกียรติคุณ คนออมดีเด่นจำนวน 10,000 ราย ซึ่งถือเป็นแนวทางในการส่งเสริมการออมทั้งระยะสั้นและระยะยาว