กก.สอบอุทยานราชภักดิ์ เรียกประชุมเตรียมส่งผลให้ผบ.ทบ.

พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ได้เรียกประชุมคณะทำงาน โดยมี พล.ท.สรรชัย อจลานนท์ เจ้ากรมกำลังพลกองทัพบก ทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการ พร้อมด้วย เจ้ากรมฝ่ายเสนาธิการกองทัพบก ผู้อำนวยการกองพระธรรมนูญทหารบก เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อสรุปผลการสอบสวนส่งให้ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ก่อนส่งผลสอบให้ รมว.กลาโหม และ นายกรัฐมนตรีตามลำดับ และเมื่อได้ผลสรุปแล้วคณะกรรมการจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการด้วย 

แหล่งข่าวจากกองทัพบก เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้จะมีการนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาพิจารณาว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายอาญา และ เข้าข่ายการกระทำผิดวินัยทหารหรือไม่ ซึ่งกรรมการได้พิจารณาในหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโครงการราชภักดิ์ แต่จะเน้นประเด็นที่กองทัพบกถูกนำไปแอบอ้างจนได้รับความเสียหายเป็นหลัก ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกที่ระบุว่าสิ่งใดก็ตามที่ทำให้กองทัพบกเกิดความเสียหายจากโครงการดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนกรณีอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพบก เช่นบุคคลภายนอกไปแอบอ้างก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิจารณาว่าเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่

"ในกรณีที่นำกองทัพบกไปแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์กองทัพบกจะเป็นโจทย์ในการยื่นฟ้องเพราะเป็นผู้เสียหาย ส่วนการนำผู้บังคับบัญชาไปแอบอ้างเพื่อรับผลประโยชน์ให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาคนนั้นว่าจะฟ้องหรือไม่ เช่นเดียวกับ การนำโครงการหรือมูลนิธิฯไปอ้างรับผลประโยชน์ก็ให้โครงการและมูลนิธิไปพิจารณาว่าจะฟ้องหรือไม่ แต่ถ้าหากมีการนำสถาบันไปแอบอ้างเจ้าหน้าที่ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีในฐานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 112 ได้ทันที จากการตรวจสอบมีการกระทำความผิดโดยมีการแอบอ้างจริง แต่ยังไม่ทราบว่าไปแอบอ้างในฐานะไหน จึงต้องเรียกเซียนพระ อักษรย่อ "อ" มาสอบถามแล้ว พร้อมถึงผู้บริจาค ผู้ว่าจ้าง มาสอบ ขณะนี้สรุปได้ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จริง แต่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมดเพราะแต่ละคนพูดกันไปคนละทาง แม้ว่าภายหลังได้มีการคืนเงินแล้ว แต่ก็ถือว่ามีการกระทำผิดแล้ว จึงต้องสอบสวนตรงนี้ก่อนเพื่อให้เป็นไปแนวทางเดียวกันแล้วค่อยพิจารณาว่าเข้าข่ายความเสียหายหรือไม่ และ ถ้าเสียหายต้องดูด้วยว่าใครเป็นผู้เสียหายใครเป็นโจทย์ฟ้อง อย่างไรก็ตามคณะกรรมการฯ ไม่มีหน้าที่ที่จะไปต้องตรวจสอบ รมช.กลาโหม เพราะตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบภายในของกองทัพบกเท่านั้น" แหล่งข่าวจากกองทัพบกกล่าว

เมื่อถามว่า ระยะเวลา 7 วันจะสอบเสร็จทันหรือไม่นั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า ถามว่าต้องตรวจสอบเรื่องไหน ถ้าเป็นเรื่องการแอบอ้างเพื่อไปก่อสร้าง 3 วันก็จบ แต่ถ้าให้สาวไปตั้งแต่การเริ่มทำโครงการ ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ก็ต้องเป็นหนังม้วนยาว ซึ่งกองทัพบกคงไม่ไปยุ่งด้วย เพราะประเด็นอยู่ที่การก่อสร้างด้วยเงินบริจาค ไม่ใช่เงินราชการ เพราะเงินเหล่านี้ไม่ใช่งบประมาณในส่วนของ กองทัพบก ส่วนข้อวิจารณ์เรื่องการใช้เงินในการก่อสร้างมากเกินความจำเป็นนั้น คงไม่ใช่ประเด็นที่คณะกรรมการต้องตรวจสอบ