มติยูเอ็น ประณามปฏิบัติการรัสเซียในซีเรีย
คณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนของสมัชชาใหญ่ยูเอ็น มีมติประณามการเข้าปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในซีเรีย
คณะกรรมาธิการชุดที่ 3 ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ มีมติเสียงส่วนมาก 115 เสียง เมื่อวันจันทร์ ยอมรับร่างมติประณามการแทรกแซงของรัสเซียและอิหร่านในซีเรีย การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศที่สงครามกลางเมืองยืดเยื้อมาร่วม 5 ปี และพุ่งเป้าไปที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรียที่ชาติตะวันตกมองว่าเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหา โดยมี 15 ประเทศออกเสียงคัดค้าน ในจำนวนนี้คือจีน อิหร่าน และรัสเซีย ขณะที่อีก 51 ประเทศงดออกเสียง ร่างมติดังกล่าวจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ยูเอ็นจีเอต่อไป
ร่างมตินี้ถูกยื่นเสนอโดยซาอุดีอาระเบีย โดยได้รับการสนับสนุนจากการ์ตา กลุ่มประเทศอาหรับ สหรัฐ และกลุ่มประเทศมหาอำนาจตะวันตก ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ระบุชื่อรัสเซียโดยตรง แต่เนื้อหาที่กล่าวประณามทุกการโจมตีต่อกลุ่มกบฏสายกลางต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ก็ชี้ชัดไปที่ปฏิบัติการของกองทัพมอสโก นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกลุ่มนักรบต่างชาติทั้งหมด รวมถึงกลุ่มที่สู้รบในนามของรัฐบาลซีเรีย ซึ่งหมายรวมถึงกองทัพคุดส์และกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (ไออาร์จีซี) ของอิหร่าน และกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน โดยเรียกร้องให้ปฏิบัติการดังกล่าวในซีเรียยุติลงทันที
ขณะเดียวกัน ยังระบุถึงประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสงครามในซีเรีย ที่คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 250,000 ราย และอีกกว่า 12 ล้านรายต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน ซึ่งมติดังกล่าวได้เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีท่าทีที่ชัดเจนต่อเรื่องดังกล่าวด้วยการส่งให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) พิจารณา ซึ่งความพยายามเมื่อปีที่้แล้วถูกขัดขวางจากรัสเซียและจีนในที่ประชุมยูเอ็นเอสซี
ด้านนายบาชาร์ จาอาฟารี เอกอัครราชทูตซีเรียประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คัดค้านมติดังกล่าว โต้ตอบกลับทางการซาอุดีอาระเบียว่า "พูดอย่างทำอย่าง" โดยอ้างถึงการลงโทษด้วยการโบยและการประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะประจานกลางจัตุรัสใจกลางเมืองของทางการริยาร์ดว่า ไม่ต่างอะไรจากวิธีที่กลุ่มไอเอสใช้ นอกจากนี้ยังกล่าวหาซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และตุรกี ว่าให้การสนับสนุนกลุ่มที่จัดว่าเป็น "ก่อการร้าย" ในซีเรีย