มติปชป. ตัดหาง 'สุขุมพันธุ์'
“มติปชป.” ตัดหาง “สุขุมพันธุ์” เหตุเมินประสานงานพรรคแก้ปัญหาความไม่โปร่งใส จากนี้ไป เป็นเอกเทศ พรรคไม่ร่วมรับผิดชอบ
นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค กทม.ร่วมกันแถลงจุดยืนคณะกรรมการบริหารพรรค ( กก.บห.) กรณีที่มีแนวทางการบริหารแตกต่างกันระหว่างพรรค กับ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผว.กทม.) ที่ไม่สามารถประสานงานได้ยาวนานกว่า 3 เดือน ว่า ตามข้อบังคับพรรคผู้บริหารท้องถิ่นจะต้องรับฟังแนวทางของพรรคด้วย โดยการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งด้านประสิทธิภาพ ความโปร่งใส ในการบริหารงานของผู้บริหาร กทม. เพื่อให้มีการตรวจสอบได้อย่างเป็นระบบ อันนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงเพื่อประโยชน์ประชาชน แต่เมื่อไม่สามารถดำเนินการได้พรรคจึงต้องรับผิดชอบทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนไว้วางใจ โดยจากนี้ไปการบริหารของ กทม.ถือเป็นการดำเนินการโดยเอกเทศของหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ เพราะพรรคไม่สามารถใช้ระบบและกลไกในการสนับสนุนติดตามตรวจสอบ การทำงานของกทม.ได้ พร้อมกับขอโทษชาวกทม.ด้วย
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายหรือเรื่อง “หมู ๆ “ ที่จะตัดสินใจ โดยที่ผ่านมามีความพยายามประสานงานโดยตลอดแต่ไม่ประสบผลสำเร็จจนมาถึงวันนี้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค กับหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ เป็นการส่วนตัว และกระแสตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่เป็นเรื่องการเคารพ ระบบพรรค ส่วนบุคลากรของพรรคที่ไปทำงานร่วมกับหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธ์ ก็ต้องตัดสินใจเอาเองว่าจะทำอย่างไร ทั้งนี้ ยังบอกไม่ได้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะมีผลต่อการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ในอนาคตหรือไม่ เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน โดยในขณะนี้ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ ยังถือเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อยู่ เพราะพรรคไม่สามารถเปิดการประชุมได้ แต่จะตัดสินใจลาออกหรือไม่ขึ้นอยู่กับหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ จะพิจารณาเอง
“พรรคจึงเปิดทางให้ผู้ว่ากทม.ตัดสินใจตามทัศนคติของผู้ว่าฯเอง เพราะถึงเวลาที่ต้องให้ผู้ว่ากทม.รับผิดชอบต่อการบริหารงานของตัวเอง ซึ่งพรรคขอขอบคุณหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ที่เคยมีผลงานกับพรรคและประเทศ หวังว่าจะประสบความสำเร็จในการบริหารงานตามทัศคติของตัวเอง โดยไม่ถือว่าหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์มีความขัดแย้งกับพรรคเพราะไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล” นายจุติ กล่าว
ด้านนายองอาจ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรกของพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ผ่านมาพรรคเคยมีมติขับนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา สก.บางรัก ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคจากกรณีเข้าชิงตำแหน่งประธาน สก.แข่งกับนายสมชาย เวลารัชตระกูล ส.ก.เขตสายไหม ทั้งที่พรรคมีมติให้ส่งรายชื่อเดียวมาแล้ว แต่กรณีของหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธ์ ไม่สามารถที่จะเปิดประชุมได้จึงเพียงแต่แสดงจุดยืนของพรรคให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งหากหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ ไม่ลาออกจากรองหัวหน้าพรรค และพรรคสามารถเปิดประชุมได้จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรนั้น คงตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบการตัดสินใจของหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ โดยเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ภายในพรรคหรือทำให้มีส.ส.แยกตัวออกจากพรรคไป และการตรวจสอบต่าง ๆ ก็จะดำเนินการตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอดีตส.ส.ของพรรคที่ไปร่วมบริหารงานกับหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ ประกอบด้วย นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่ากทม. และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ที่ปรึกษาผู้ว่ากทม.