'กลุ่มสหพัฒน์ฯ' ยันไม่ปรับขึ้นราคา 'มาม่า'
"กลุ่มสหพัฒน์ฯ" คาดยอดขาย "มาม่า" ปีนี้จะโตกว่า 5% พร้อมเร่งเดินหน้าทำตลาดทุกช่องทาง ยันไม่ปรับขึ้นราคา หวั่นผู้ค้ารายใหม่เข้าแข่งขัน
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC กล่าวว่า ในปีนี้ตั้งเป้าธุรกิจมาม่าเติบโตกว่า 5% จากปีก่อน ซึ่งมีอัตราการเติบโต 3.2% โดยในช่วงปีที่ผ่านมาภาพรวมของอัตราการเติบโตตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยรวมโต 0.4% หรือมูลค่า 14,576 ล้านบาท ซึ่งถือว่าอัตราการเติบโตของมาม่าสูงกว่าตลาดโดยรวม
ในปีนี้มองว่าธุรกิจมาม่าจะสามารถเติบโตได้ เนื่องจากมีมุมมองภาครัฐจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการที่ชาญฉลาด ซึ่งสามารถส่งเสริมให้ประเทศไทยแข่งขันกับการเปิดเสรี หรือ AEC ได้ โดยเชื่อว่าหลังจากเปิด AEC ได้ระยะ 2-3 เดือน จะมีกลุ่มลูกค้าเกิดขึ้นใหม่ เพราะไทยเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ CLMV และศูนย์กลางของ AEC ซึ่งจะสามารถดึงลูกค้าจากชายแดนและประเทศเพื่อนบ้านได้
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาตลาดการแข่งขันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปค่อนข้างรุนแรง และยอมรับว่าอัตราการเติบโตทั้งตลาดโตต่ำมากที่สุดในรอบ 44 ปี แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจมาม่ายังไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างแคมเปญที่ดึงตัวพรีเซ็นเตอร์และแคมเปญต่างๆเข้ามารักษา และผลักดันการเติบโตส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 1 ไว้ได้
ด้านสื่อมีเดียในปีนี้ กลุ่มธุรกิจมาม่าจะใช้งบไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวเป็นตัวเลขของปีก่อน โดยจะใช้ในการรุกแคมเปญใหม่ รวมถึงรสชาติใหม่ โดยปัจจุบันนี้ธุรกิจมาม่ามีรสชาติของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งหมด 24 รส ซึ่งยอดขายดีเรียงตามลำดับได้แก่ 1.ต้มยำกุ้ง 2.หมูสับ 3.ต้มยำกุ้งน้ำข้น และ 4.เย็นตาโฟ โดย 3 อันดับแรกมีส่วนแบ่งของรสชาติทั้งหมดอยู่ 60%
ในปีนี้มีแนวทางทำรสชาติใหม่เพื่อกระตุ้นผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตามต้องทำวิจัยให้มากเพียงพอว่าสินค้าตัวใหม่จะกินมาร์เก็ตแชร์ของเดิมเท่าไหร่ จึงจะตัดสินใจว่าจะออกรสชาติใดบ้าง
"เรื่องรสชาติใหม่เราต้องศึกษาและทำรีเสิร์ชก่อนเพื่อตัดสินใจว่าจะออกหรือไม่ออก โดยต้องตัดสินด้วยว่าสินค้าใหม่จะกินส่วนแบ่งของเดิมมากน้อยแค่ไหน" นายเวทิต กล่าว
นอกจากนี้ยังไม่มีแผนปรับขึ้นราคามาม่า โดยราคาซองมาม่ายังคงเดิมอยู่ที่ 6 บาท โดยเหตุผลที่ไม่ปรับขึ้นเนื่องจากไม่อยากเปิดช่องทางให้ผู้ค้ารายใหม่เข้ามาแข่งขันในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะปัจจุบันการแข่งขันค่อนข้างรุนแรงอยู่แล้ว โดยยอมรับว่ามาร์จิ้นของธุรกิจมาม่าอาจปรับตัวลดลง แต่บริษัทฯยังมีโปรโมชั่นทางการตลาดเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นได้