ตั้งกองทุนฯได้1.5แสน ช่วย 'น้องอารดา' ลูกสาวนพ.กฤษฎา
สสจ.ปราจีนฯ ตั้งกองทุนสวัสดิการ ช่วย "น.ส.อารดา" เบื้องต้นมีเงิน 1.5แสนบาท เบิกจ่ายรูปแบบกรรมการ
นพ.โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปราจีนบุรี กล่าวถึงกรณีออกหนังสือจดหมายเวียนถึง นพ.สสจ. และผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขตสุขภาพที่ 6 เพื่อขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัว นพ.กฤษฎา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ รพ.กบินทร์บุรี ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด เหลือเพียงมารดาวัย 80 ปี และ น.ส.อารดา วงศ์ดีเลิศ ซึ่งป่วยเป็นโรคลมชัก ซึ่งไม่ได้เรียนหนังสือเพราะไม่มีเงิน ว่า การให้ความช่วยเหลือครอบครัวของ นพ.กฤษฎา เนื่องจากทราบถึงความยากลำบากของครอบครัวดังกล่าว ผ่าน นพ.โชคชัย มานะดี ผอ.รพ.กบินทร์บุรี และ นพ.พงศธร สร้อยคีรี ผอ.รพ.ประจันตคาม ซึ่ง นพ.พงศธร ถือเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ นพ.กฤษฎา คือ แพทยศาสตรบัณฑิต รุ่น 42 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยพบว่า น.ส.อารดานั้นต้องสูญเสียทั้งคุณพ่อและแม่ อยู่กับคุณย่ามาตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งก็มีรายได้ที่ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถเรียนต่อ ม.4 ได้
"น้องอารดาสูญเสียคุณแม่ไปตั้งแต่เมื่ออายุได้ 5 เดือน เมื่อคราวเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งทุกคนบนรถเสียชีวิตทั้งหมดยกเว้นน้องคนเดียวที่รอดชีวิต แต่ก็ต้องมาสูญเสียคุณพ่อ คือ นพ.กฤษฎา ไปอีกจากการติดเชื้อในกระแสเลือดเมื่อตอนน้องอายุได้ 2 ขวบ จึงเติบโตมากับคุณย่า จนขณะนี้มีอายุ 18 ปีแล้ว ซ้ำยังมีอาการป่วยด้วยโรคลมชัก และไม่ได้เรียนต่อชั้น ม.4 เพราะประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย โดยคุณย่ามีรายได้ไม่มากจากการทำขนมต้มมาขายหน้าโรงเรียน และเบี้ยยังชีพอีกเดือนละ 800 บาทเท่านั้น ขณะที่ใช้จ่ายนั้นมีค่าเช่าบ้านประมาณพันบาท ซึ่งได้ค้างค่าเช่ามาประมาณ 2 เดือนแล้ว เบื้องต้น นพ.โชคชัย และนพ.พงศธรได้มีการให้ความช่วยเหลือเรื่องของยังชีพไปบ้างแล้ว แต่จากเรื่องราวดังกล่าวจึงตัดสินใจนำเรื่องของน้องเข้าที่ประชุมจังหวัด เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ โดยตั้งบัญชี กองทุนสวัสดิการ เพื่อ น.ส.อารดา วงศ์ดีเลิศ ขึ้น และส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ออกไปยังเครือข่ายด้านสาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นมีเงินในกองทุนแล้วประมาณ 155,000 บาท" นพ.โชคชัย กล่าว
นพ.โชคชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการนำเงินในบัญชีมาช่วยเหลือ น.ส.อารดา นั้น จะอยู่ในรูปแบบของคณะกรรมการกองทุน ซึ่งมี นพ.โชคชัย และ นพ.พงศธร เป็นหนึ่งในกรรมการด้วย ซึ่งคณะกรรมการฯ มีมติให้จ่ายเงินสัปดาห์ละ 1,600 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ ของ น.ส.อารดาและคุณย่า ตกเดือนละประมาณ 6,400 บาท ค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งค่าเล่าเรียนก็จะใช้เงินจากกองทุนนี้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนระยะยาวไปจน น.ส.อารดาเรียนจบปริญญาตรี ซึ่งที่ทราบคือ น.ส.อารดาอยากเรียนด้านบัญชี ส่วนการรักษาโรคลมชักของ น.ส.อารดานั้น อยู่ในความดูแลของ รพ.กบินทร์บุรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะอยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง)
"หลังจากมีการกระจายขอความช่วยเหลือ และมีการส่งต่อกันในสังคมออนไลน์ก็คาดว่าเงินในกองทุนเพื่อช่วยเหลือน้องอารดาน่าจะเพิ่มขึ้น สามารถดูแลน้องไปจนเรียนจบและประกอบอาชีพมีรายได้เป็นของตนเองได้ ส่วนการนำเงินในบัญชีมาช่วยเหลือนั้น ถ้ามีความเปลี่ยนแปลงกรรมการก็จะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถให้ความช่วยเหลือผ่านทางบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาประจันตคาม ชื่อบัญชีกองทุนสวัสดิการ เพื่อ น.ส.อารดา วงศืดีเลิศ เลขที่บัญชี 020067477915" นพ.โชคชัย กล่าวและว่า ส่วนความช่วยเหลือในฐานะเป้นข้าราชการนั้น เนื่องจาก นพ.กฤษฎา ได้ลาออกจาก รพ.กบินทร์บุรี ไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จึงไม่ได้มีสิทธิของข้าราชการ
ภาพ - pr.moph.go.th