3สมาคมอสังหาฯ แจงมหกรรมบ้านและคอนโด ยอดเกินเป้า
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยฯแจงงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่34 ยอดขาย ยอดขอสินเชื่อ และยอดคนเดิน งานทะลุเกินเป้า
นายวีระกิตติ์ เอกอัครวิจิตร ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่34เปิดเผยว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่34ว่า ตลอดการจัดงาน4วัน ตั้งแต่10-13มีนาคมที่ผ่านมาภายใต้คอนเซ็ปต์ “โค้งสุดท้าย ลดเกินรัฐ ลุ้นรับล้าน”ได้รับผลตอบรับดีกว่าที่คาดไว้ โดยภายในงานได้รวบรวมผู้ประกอบการมากกว่า200ราย ที่ร่วมระดมโครงการอสังหาฯ ทุกประเภทมากกว่า1,000โครงการ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ อีกทั้งยังมีบริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินชั้นนำมากมายมานำเสนอแก่ลูกค้า ซึ่งตลอด4วันแสดงงาน
มียอดผู้เข้างานกว่าสองแสนคนและมียอดจองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานมากกว่าสี่พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังจากจบงานจะมียอดขายตามมาอีก โดยประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจองซื้อภายในงานมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ คอนโดมิเนียม รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว นอกจากนี้ ยังมียอดขอสินเชื่อทะลุหมื่นล้านบาท
"จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นสามารถระบุได้ว่ากลุ่มคนเดินงานในครั้งนี้เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ ที่รีบตัดสินใจซื้อที่อยู่ อาศัยให้ทันก่อนมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ของรัฐบาลจะหมดลงในปลายเดือนเมษายนนี้ โดยมองว่ามหกรรม บ้านและคอนโดครั้งนี้เป็นโอกาสทองในโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นสุดมาตรการฯ และยังเป็นที่รวมโปรโมชั่นพิเศษกว่า ครั้งไหนๆ เพราะผู้ประกอบการหลากหลายแบรนด์ได้นำสินค้ามากมายมาเคลียร์สต็อก"
ด้านการประมวลผลข้อมูลผู้ลงทะเบียนเข้าชมงาน โครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจจองซื้อมากที่สุดเป็นสินค้าประเภทบ้านเดี่ยว คิดเป็น35%รองลงมาเป็นคอนโดมิเนียม31%ทาวน์เฮ้าส์20%ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทบ้านแฝดและอื่นๆ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันซึ่งผู้เข้าชมงานกว่า30% เป็นผู้ที่เคยมาเข้าชมงานในครั้งก่อน และอีกประมาณ70% เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมฯ เป็นครั้งแรก ผู้เข้าชมงานกว่า39% อยู่ในช่วงอายุ21-30ปี รองลงมา34%อยู่ในช่วงอายุ31-40ปี และ14%อยู่ในช่วงอายุ41-50ปีด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่างไม่เกิน30,000บาท43% มีรายได้ ระหว่าง30,000–50,000บาท28% และมีรายได้เกิน50,000บาท10% ระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต1-2ปี อยู่ที่19% ระยะเวลา6-12เดือน18% และระยะเวลา1-3เดือน14%
ผลสำรวจด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทระบุว่า ผู้เข้าชมงาน34%ต้องการที่อยู่อาศัยระดับ ราคา1-2ล้านบาท อีก30%ต้องการระดับราคา2-3ล้านบาท17%ต้องการราคา3-4ล้านบาท และ9%ต้องการ4-6ล้านบาท และมีเพียง5%ที่สนใจที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า1ล้านบาท