คาดเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดงภายในปี 62
"ออมสิน" รมช.คมนาคม คาดเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดง บางซื่อ - รังสิต ทั้งเส้นได้ภายในปี 2562
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาจ้างผู้รับเหมาโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) งานสัญญา 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาตู้รถไฟฟ้า ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกิจการร่วมค้า MHSC ซึ่งคาดว่างานสัญญา 3 จะใช้เวลาดำเนินการ 48 เดือน โดยจะเร่งรัดให้เสร็จภายในปี 2562 ซึ่งจะใกล้เคียงกับงานโยธาในสัญญาที่ 1 และ 2 ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2562 เช่นกัน เพื่อที่จะเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงได้ทั้งเส้นทางในปี 2562 ตามที่กระทรวงตั้งเป้าหมายไว้
สำหรับสัญญาที่ 3 จะครอบคลุมในส่วนของงานออกแบบและก่อสร้างรางรถไฟ, ระบบไฟฟ้าและส่งกำลัง, ระบบอาณัติสัญญาณ, ระบบติดต่อสื่อสาร, ระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ และตู้รถโดยสาร ภายใต้มูลค่าสัญญา 32,399 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี
"จากประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของกิจการร่วมค้า MHSC จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนโครงการสู่ความสำเร็จ นำไปสู่การยกระดับการเดินทางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนไทย และเป็นกุญแจสำคัญที่สนับสนุนการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต" รมช.คมนาคม กล่าว
ทั้งนี้ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างในส่วนของสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2552 แล้วเสร็จเมื่อปี 2555 ประกอบด้วย 3 สถานี คือ สถานีตลิ่งชัน, สถานีบางบำหรุ และสถานีบางซ่อน ซึ่งในอนาคตจะมีโครงการจะก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 3 สถานี คือ สถานีบ้านฉิมพลี, สถานีบางกรวย-กฟผ. และสถานีสะพานพระราม 6 ในโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา
สำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ - รังสิต ตามแนวเส้นทางรถไฟสายเหนือ ประกอบด้วย 10 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ, สถานีจตุจักร, สถานีวัดเสมียนนารี, สถานีบางเขน, สถานีทุ่งสองห้อง, สถานีหลักสี่, สถานีการเคหะ, สถานีดอนเมือง, สถานีหลักหก และสถานีรังสิต รวมระยะทางประมาณ 26.3 กิโลเมตร โดยที่ผ่านมาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำสัญญาในส่วนของสัญญาที่ 1 งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง กับกิจการร่วมค้า เอสยู ประกอบด้วย บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) มูลค่างานตามสัญญา 29,826 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 ได้ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เป็นผู้ดำเนินการสำหรับงานโยธาสำหรับทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ - รังสิต มูลค่างานตามสัญญา 21,235 ล้านบาท
ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการ ประกอบด้วย 1. ลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนน จำนวน 8 จุด และลดการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างสิ้นเชิง 2. สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการเดินรถไฟทางไกลสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ โดยรองรับการเดินรถที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการเดินรถระบบไฟชานเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงของประเทศได้อย่างมาก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และ 4. ระบบขนส่งทางรถไฟที่สะดวก ทันสมัย ตรงเวลา จะจูงใจให้คนหันมาใช้บริการรถไฟมากขึ้น โดยคาดว่าเมื่อเดินระบบรถไฟฟ้าจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารจากรังสิตสู่บางซื่อไม่น้อยกว่า 306,608 คน/วัน ในปีที่เปิดดำเนินการ และเมื่อขยายโครงการจากบางซื่อไปชุมทางบ้านภาชีในอนาคต จะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารที่คาดว่าจะมีประมาณ 449,080 คน/วัน