ผู้จัดงานยอมรับ ยอดจองมอเตอร์โชว์ต่ำกว่าเป้า
ผู้จัดงานมอเตอร์โชว์ ยอมรับ ปีนี้พลาดเป้าทั้งยอดจองและมูลค่า เหตุจากประชาชนไม่กล้าใช้จ่ายเพราะไม่มั่นใจรายได้อนาคต
นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 ซึ่งวันนี้ (3 เม.ย.) เป็นวันสุดท้าย โดยยอมรับว่า ตลอดการจัดงาน 12 วัน มีประชาชนเข้ามาชมงานเกินเป้ากว่า 1.6 ล้านคน จากเป้าหมาย 1.5 ล้านคน ขณะที่ยอดจองต่ำกว่าเป้าอยู่ที่ประมาณกว่า 30,000 คัน จากเป้า 40,000 คัน มูลค่าลดลงจากเป้า 40,000 ล้านบาท เหลือเพียง 30,000 - 32,000 ล้านบาท จากสาเหตุประชาชนยังไม่มั่นใจรายได้ตนเองในอนาคต และเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ รวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรไม่ดี อีกทั้งการจัดงานครั้งนี้ไม่มีแรงจูงใจเหมือนที่ผ่านมาโดยเฉพาะมาตรการภาษีจากภาครัฐหรือรถยนต์ขนาดเล็กที่มีราคาไม่เกินคันละ 400,000-500,000 บาท ไม่ได้นำมาเปิดจองมากนัก โดยปีนี้รถส่วนใหญ่แต่ละค่ายที่นำมาเปิดให้จองจะเริ่มตั้งแต่ 800,000 บาท ถึงคันละ 1.5 ล้านบาท และรถหรูเกินกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขจะต่ำกว่าเป้าหมายด้วยเหตุผลดังกล่าว แต่ผู้จัดงานพอใจประชาชนยังให้ความสนใจเข้าชมงานมากกว่าการจัดงานมอเตอร์โชว์ของญี่ปุ่นและกลุ่มอาเซียนด้วยกัน โดยหลายประเทศมั่นใจไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ในภูมิภาคนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา หากดูตัวเลขยอดจองรถยนต์ในงานปีนี้ที่มีกว่า 30,000 คัน โดยค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุดเป็นฮอนด้ากว่า 4,000-5,000 คัน เนื่องจากมีรถยนต์ซีวิครถใหม่ออกมา อันดับ 2 อีซูซูยอดจองกว่า 4,000 คัน และโตโยต้าอันดับ 3 กว่า 3,000-3,500 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยอดจองเกินกว่า 4,000-5,000 คัน เนื่องจากราคาต่อคันปรับลดลงจากอดีตที่มีราคากว่า 500,000 บาท เหลือคันละ 200,000-300,000 บาท ทำให้ประชาชนสนใจรถจักรยนต์ประเภทนี้มากขึ้น
นายปราจิน กล่าวว่า แม้การจัดงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ยอดจองและมูลค่าจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ถือเป็นส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและยังจะส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปีนี้มียอดขายทั้งในประเทศและส่งออกไม่น้อยกว่า 2 ล้านคัน แบ่งเป็นเพื่อการส่งออก 1.2 ล้านคัน และในประเทศกว่า 800,000 คัน ซึ่งยังเชื่อว่าเวลาที่เหลือปีนี้หลายค่ายรถยนต์ยังจะมีแผนกระตุ้นยอดขายรูปแบบต่าง ๆ เพื่อขยายยอดขายของตนเอง