อินโดฯ หวั่นโจรสลัดพุ่งทำทะเลซูลูกลายเป็นโซมาเลีย
อินโดนีเซียเกรงว่า หากไม่เพิ่มความเข้มงวดการปล้นสะดมบริเวณน่านน้ำพรมแดนอินโดนีเซีย-ฟิลิปปินส์ อาจเพิ่มจำนวนขึ้นเท่ากับในโซมาเลีย
รัฐมนตรีความมั่นคงอินโดนีเซีย “นายลูฮุต ปันด์ไจตัน” เปิดเผยว่า อินโดนีเซียไม่ต้องการให้ทะเลซูลูทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพรมแดนกับอินโดนีเซีย ที่เกิดขึ้นลักพาตัวบ่อยครั้งกลายเป็นโซมาเลีย
ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินเรือที่ใช้ขนส่งสินค้ามูลค่าปีละ 40,000 ล้านดอลลาร์ และเป็นเส้นทางของเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่จากมหาสมุทรอินเดีย ที่ไม่สามารถใช้ช่องแคบมะละกาที่หนาแน่นได้
ตามเส้นทางนี้ในเขตน่านน้ำของฟิลิปปินส์ เครือข่ายกลุ่มติดอาวุธอาบูซายาฟซึ่งต้องสงสัยว่ามีสายสัมพันธ์กับกลุ่มอัล-กออิดะห์ ได้ก่อเหตุโจมตีเรือลาก 3 ครั้ง ลักพาตัวชาวอินโดนีเซียและมาเลเซียไปรวมทั้งสิ้น 18 คนโดยกลุ่มอาบูซายาฟที่ขึ้นชื่อเรื่องการลักพาตัว ฆ่าตัดศีรษะ วางระเบิด และกรรโชกทรัพย์ เรียกค่าไถ่ลูกเรือชาวอินโดนีเซียคนละ 1.1 ล้านดอลลาร์ (39.05 ล้านบาท)
นายปันด์ไจตันกล่าวด้วยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียจะประชุมกันที่กรุงจาการ์ตา เพื่อหารือกันถึงความเป็นไปได้ในการลาดตระเวนร่วมเพื่อรักษาความปลอดภัยตามเส้นทางจากอินโดนีเซียถึงฟิลิปปินส์ แต่ไม่ได้ระบุวันประชุม ส่วนผู้บัญชาการกองทัพของทั้งสามประเทศมีกำหนดประชุมร่วมกันที่กรุงจาการ์ตาในวันที่ 3 พฤษภาคม
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและคมนาคมของอินโดนีเซีย หารือกันในวันนี้เรื่องการเพิ่มความปลอดภัยในทะเล
ส่วนการปล้นสะดมใกล้ชายฝั่งโซมาเลียลดลงอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เนื่องมาจากบริษัทขนส่งทางเรือว่าจ้างหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพมาดูแลความปลอดภัยให้ รวมถึงการลาดตระเวนของเรือรบนานาชาติ