‘บีทีเอส’หวังสื่อโฆษณาหนุนรายได้โต20%
‘บีทีเอส’คาดรายได้รวมปีนี้โต10-20% จากการเติบโตของผู้โดยสาร 5-6%และธุรกิจสื่อโฆษณาหลังซื้อ ‘มาสเตอร์ แอด’
นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) BTS เปิดเผยว่า คาดว่ารายได้รวมประจำปี 2559/2560 (เม.ย. 2559 – มี.ค. 2560) จะเพิ่มขึ้นราว 10-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 10,816 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 5-6% และอัตราเฉลี่ยค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 1% และรายได้รับจ้างเดินรถและบำรุงรักษาเพิ่มขึ้น 3-4%
ขณะที่รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 50% หลังจากที่วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้าไปซื้อกิจการของ มาสเตอร์ แอด (MACO) นอกจากนี้จะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ราว 580 ล้านบาท ส่วนธุรกิจบริการ ได้แก่ บัตรแรบบิท คาดว่าจำนวนบัตรจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.5 ล้านใบ จาก 5.5 ล้านใบ และสมาชิกจะเพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านราย เป็น 3 ล้านราย โดยบริษัทตั้งงบลงทุนรวมปีนี้ไว้ 7,600 ล้านบาท ใช้สำหรับธุรกิจขนส่งมวลชน 4,280 ล้านบาท ธุรกิจสื่อโฆษณา 500 ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,700 ล้านบาท ธุรกิจบริการ 110 ล้านบาท และอื่นๆ 10 ล้านบาท
“ตั้งแต่ปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะกลับมาเป็นหุ้นเติบโต หลังจากที่ 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีนโยบายการันตีเงินปันผลต่อปีไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท 7,000 ล้านบาท และ 8,000 ล้านบาท ตามลำดับ โดยปัจจัยสนับสนุนจะมาจากส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งหากเปิดดำเนินการครบทั้งหมดภายใน 3-4 ปีนี้ จะทำให้รายได้ของธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า และยังมีโอกาสจากการขยายการให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ต่อเนื่อง”
สำหรับนโยบายการจ่ายปันผลจะกลับมาอิงกับนโยบายเดิม คือจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ แต่ในอดีตที่ผ่านมาจะเห็นว่าบริษัทมีอัตราการจ่ายเงินปันผลราว 80% ของกำไรสุทธิ
ส่วนการเข้าประมูลรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะเข้าประมูลรถไฟฟ้าสายใหม่รวม 5 สาย ได้แก่ สายสีชมพู สีส้ม สีเหลือง สีเทา และสีทอง ซึ่งคาดว่าสีชมพูและสีเหลือง มูลค่าโครงการละ 50,000 ล้านบาท จะเปิดประมูลได้เร็วที่สุด และคาดว่าจะรัฐบาลจะเปิดเผยรายละเอียดขอบเขตของงานและข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (TOR) ได้ในช่วงปลายเดือน มิ.ย. นี้ ขณะที่สายสีส้มน่าจะเปิดประมูลได้ภายใน 3-6 เดือนนี้ ส่วนสายสีเทาและทองคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
ทั้งนี้ หากบริษัทได้รับงานโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ เงินลงทุนจะมาจากการกู้เงิน ควบคู่กับการออกหุ้นกู้ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ขอจัดอันดับเรตติ้งไว้แล้ว อยู่ที่ระดับ A คงที่ จากทั้งฟิตซ์ เรตติ้ง และทริส เรตติ้ง ขณะที่เงินสด ณ ปัจจุบันมีอยู่ราว 16,000 ล้านบาท
