สนช.รับมติครม.อัญเชิญ 'เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ' ขึ้นครองราชย์
ประธาน สนช.แจ้งต่อสภาฯ รับทราบมติครม. พร้อมกราบบังคมทูลเชิญ "เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ" ขึ้นทรงครองราชย์ เป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่10
เมื่อเวลา 11.19 น.วันที่ 29 พ.ย.ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ได้เป็นประธานในการประชุมสนช. ครั้งที่ 76/2559 (เป็นพิเศษ)โดยนายพรเพชรได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า บัดนี้มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมจำนวน 243 คน ตนขอเปิดประชุมเป็นการดำเนินการตามมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พ.ศ. 2557 ประกอบกับมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ว่าตามที่ได้มีประกาศสำนักพระราชวังเรื่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต
บัดนี้นายกฯได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่นร.0503/44549 ลงวันที่ 29 พ.ย.2559 แจ้งเรื่องการสถาปนาแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้แล้วตามกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.2467 แจ้งว่า บัดนี้ราชบัลลังก์ว่างลง และพระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.2467 แล้ว ครม.จึงขอแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อทราบ และให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป
ตามที่ประชุมสนช.ซึ่งทำหน้าที่รัฐสภาได้รับทราบการแจ้งมติครม.แล้ว ในขั้นตอนต่อไปจะได้นำความกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประชาชนชาวไทยสืบไป ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2557 ประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 23
“ ในโอกาสอันเป็นมหามงคล ผมขอให้สมาชิกทุกท่านโปรดยืนขึ้นเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลใหม่ “ และประธานได้ให้สมาชิกสนช.กล่าวคำถวายพระพรพร้อมกัน ซึ่งสมาชิกสนช.ได้พร้อมใจเปล่งเสียงว่า“ขอพระองค์ทรงพระเจริญ”จากนั้นประธานที่ประชุมได้สั่งปิดประชุมในวัน 11.25 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการประชุมสมาชิกได้เดินทางเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงได้แต่งกายด้วยชุดสากลนิยมไว้ทุกข์ซึ่งใช้เวลาในการประชุมเพียง 6 นาที