14-31ธ.ค.'ช้อปช่วยชาติ' คลังจ่อออกมาตรการเพิ่ม
ครม.ไฟเขียวช้อปช่วยชาติ ลดหย่อนภาษี 15,000 บาท/คน ซื้อสินค้า-บริการ 14-31ธ.ค. นี้ คาดใช้สิทธิล้านคน สูญรายได้ 3,200 ล้าน เล็งออกมาตรการเพิ่ม
ภาคเอกชนขานรับมาตรการ “ช้อปช่วยชาติ” ที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี วานนี้ (13 ธ.ค.) โดยเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้ซื้อสินค้าวงเงินไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน เปรียบเสมือนแคมเปญแห่งชาติในการกระตุ้นกำลังซื้อและเศรษฐกิจในช่วง 18 วันสุดท้ายของปี โดยผู้ประกอบการค้าปลีก สินค้า และบริการต่างๆ พร้อมใจกันอัดแคมเปญโปรโมชั่นครั้งใหญ่เพื่อช่วงชิงลูกค้าและยอดขาย
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่13ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี โดยเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้มีเงินได้ที่ซื้อสินค้าและบริการช่วงปลายปีในระหว่างวันที่14-31 ธ.ค.2559 รวมเวลา 18 วันตามที่ได้มีการใช้จ่ายจริงและตามฐานภาษีของแต่ละบุคคลโดยไม่เกินคนละ15,000บาท
ทั้งนี้ผู้ใช้สิทธิจะต้องขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร โดยขอจากผู้ค้าที่มีการจดทะเบียนการค้าและเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีการค้าอย่างถูกต้อง โดนสินค้าและบริการที่ไม่เข้าข่ายได้รับการยกเว้นภาษีได้แก่ สุรา เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ค่าเชื้อเพลิงที่รวมทั้งก๊าซและน้ำมัน รวมทั้งค่าบริการที่จ่ายเป็นค่าสำหรับค่าไกด์นำเที่ยว ค่าที่พักที่จ่ายให้กับผู้ประกอบการโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าว จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในช่วงปลายปี2559 ทันทีเนื่องจากประชาชนมีแรงจูงใจที่จะใช้จ่ายมากขึ้น
ทั้งนี้กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่าจะสูญเสียรายได้จากภาษีประมาณ 3,200 ล้านบาท แต่จะเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และยังส่งผลต่อการผลิตและการจ้างงานต่อเนื่องไปถึงต้นปี2560 อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ขณะเดียวกัน มาตรการนี้ ยังส่งผลให้มีการจูงใจให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าสู่ระบบมากขึ้นซึ่งจะเป็นผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าในปี 2560 กระทรวงการคลังจะออกมาตรการในลักษณะนี้อีกหรือไม่ เนื่องจากต้องประเมินภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในปีหน้าก่อนถึงจะทราบว่าจำเป็นต้องออกมาตรการนี้หรือไม่
“กระทรวงการคลังรายงานว่าในการใช้มาตรการนี้ในช่วงปลายปีก่อน มีผู้เข้าใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ประมาณ 1 ล้านคน ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาตรการในปีนี้มีช่วงเวลาที่ยาวขึ้นก็จะทำให้ประชาชนมีเวลาในการตัดสินใจในการซื้อสินค้าได้ยาวนานขึ้นและส่งผลให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีและชดเชยการบริโภคที่ชะลอตัวไปก่อนหน้านี้”
ได้สิทธิลดภาษีสูงสุด 5,250 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการช้อปช่วยชาติที่ให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาไม่เกิน 15,000 บาท กำหนดการใช้สิทธิลดภาษีตามฐานเงินได้สุทธิ แบ่งเป็น8ขั้นภาษีได้แก่ 1.เงินได้สุทธิระหว่าง 0-150,000 บาทต่อปียกเว้นภาษีสูงสุด 0% 2.เงินได้สุทธิระหว่าง 150,001- 300,000 บาทต่อปี ยกเว้นภาษีสูงสุด 5% หรือ 750 บาท 3.เงินได้สุทธิระหว่าง 300,001-500,000 บาทต่อปี ยกเว้นภาษีสูงสุด 10% หรือ 1,500 บาท 4.เงินได้สุทธิระหว่าง 500,001-750,000 บาทต่อปี ยกเว้นภาษีสูงสุด 15% หรือ 2,250 บาท
5.เงินได้สุทธิระหว่าง 750,001- 1,000,000 บาทต่อปี ยกเว้นภาษีสูงสุด 20% หรือ 3,000 บาท 6.เงินได้สุทธิระหว่าง 1,000,001-2,000,000 บาทต่อปี ยกเว้นภาษีสูงสุด 25% หรือ 3,750บาท 7.เงินได้สุทธิระหว่าง 2,000,001-4,000,000 บาทต่อปี ยกเว้นภาษีสูงสุด 30% หรือ 4,500 บาท และรายได้มากกว่า 4,000,000 บาทต่อปี ยกเว้นภาษีสูงสุด35%หรือไม่เกิน 5,250 บาท
บัตรเครดิตขานรับช้อปช่วยชาติ
ด้านนายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย (เคทีซี) กล่าวว่า แนวโน้มช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ ยังต้องรอดูว่า ภาครัฐที่จะออกมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวและช้อปช่วยชาติ จะกระตุ้นการอุปโภคบริโภคได้ดีเหมือนปีก่อนได้หรือไม่ หากยังกระตุ้นการบริโภคได้ดี คาดว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของเคทีซี ปรับตัวดีขึ้นโตตามเป้าที่15% ในปีนี้
ด้านนายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วย ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่ามาตรการช้อปช่วยชาติเป็นเรื่องที่ดี และเหมาะสมเพราะโดยปกติเป็นช่วงที่คนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันอยู่แล้ว แต่ปีนี้มีเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมือง ฉะนั้นมาตรการดังกล่าวจะเป็นแรงจูงใจที่ดีกระตุ้นการใช้จ่ายใช้สอยช่วงปลายปีให้กลับมา ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตภาพรวมและธนาคารด้วย
สะพัด 2.5 หมื่นล้าน
นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า มาตรการช้อปช่วยชาติครั้งนี้คาดสร้างเม็ดเงินสะพัด 25,000 ล้านบาท โดยผู้ที่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีในระบบกว่า 9 ล้านคน ประเมินว่ามีกลุ่มลูกค้าที่ศักยภาพ 1.5-2 ล้านคน เพิ่มจากปี 2558 เล็กน้อย
ทั้งนี้จะกระตุ้นภาพรวมธุรกิจค้าปลีกปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 3% ดีกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเติบโตในระดับ 2.8-3%
อย่างไรก็ดี หากเทียบมาตรการช้อปช่วยชาติปลายปี 2558 ระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค. รวม 7 วัน สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 20% หรือ 25,000 ล้านบาท ตัวเลขค้าปลีกขยับ 0.3% ทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกปี 2558 เติบโต 3.05% สูงกว่าเดิมคาดเติบโต 2.8%
โดยกลุ่มสินค้าคงทน ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้างอุปกรณ์กีฬา ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้มากกว่าหมวดอื่นๆ เพราะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง ผู้บริโภครอซื้อเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองและครอบครัว พบว่า ยอดขายเติบโต 25% กลุ่มสินค้ากึ่งคงทน ได้แก่ แฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องสำอาง ลักชัวรี่แบรนด์ ได้ประโยชน์รองลงมา ยอดขายเติบโตสูงสุด 35% กลุ่มสินค้าไม่คงทน หรือ สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ยอดขายเติบโต 10%
เพิ่มจุดออกใบกำกับภาษีเท่าตัว
นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์ มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าในช่วงดังกล่าว โดยเฉพาะการออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้า ซึ่งจากประสบการณ์ในปี 2558 ได้เพิ่มจุดออกใบกำกับภาษีจากเดิมที่มีสาขาละ 3-4 จุด เป็นสาขาละ 7-8 จุด เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก โดยใช้พนักงานที่มีความชำนาญในการออกใบกำกับภาษี รวมถึงเพิ่มพนักงานบริการอำนวยความสะดวกในแต่ละจุด จาก 2-3 คน เป็น 4-5 คน
“เดอะมอลล์จะมอนิเตอร์ความต้องการในเรื่องการออกใบกำกับภาษีของลูกค้าของลูกค้าในสาขาใหญ่ เช่น พารากอน ดิ เอ็มโพเรียม เดอะมอลล์ บางกะปิ ฯลฯ ถ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการยังสามารถเพิ่มจุดบริการได้อีก”
ใช้เครื่องอ่านบัตรประชาชน
นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า “ช้อปช่วยชาติ” เป็นมาตรการที่ดีในการกระตุ้นการใช้จ่าย โดยปีนี้ได้เตรียมเครื่องอ่านบัตรประชาชนที่จุดชำระเงิน ทำให้สามารถออกใบกำกับภาษีได้เร็ว ลูกค้าไม่ต้องรอนาน
พร้อมกันนี้ ธุรกิจค้าปลีกในเครือเซ็นทรัลได้มีการจัดโปรแกรมโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายช่วงปลายปีเป็นพลังในการดึงดูดลูกค้า อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลจัดแคมเปญ Central Season of Giving 2017 ลดสูงสุด 50% และ ฟรีคูปองส่วนลด 100 บาท เมื่อซื้อครบ 3,000 บาท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จัดแคมเปญ Robinson Gift 2017 มอบส่วนลดสูงสุด 50% พร้อมลุ้นกิฟท์การ์ดทองคำ เมื่อซื้อครบ 3,000 บาท ผ่านบัตร Robinson Gift Card
ปลุกยอดเครื่องใช้ไฟฟ้าพุ่ง30%
นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า มาตรการช้อปช่วยชาติกระตุ้นอารมณ์การจับจ่าย เป็นขวัญและกำลังใจให้ประชาชน มั่นใจว่าผู้บริโภคจะออกมาจับจ่ายเทียบจากช่วงที่ผ่านมาชะลอซื้อ ส่งผลดีต่อตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า
นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในช่วงมาตรการช้อปช่วยชาติ 18 วัน คาดกระตุ้นตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตได้ถึง 30% โดยแอลจี จัดมหกรรมลดราคาส่งท้ายปี “แอลจี เมก้า เซลล์ 2016” นับเป็นแคมเปญใหญ่สุดของปีนี้ ให้ส่วนลดพิเศษสูงสุด 35% ในกลุ่มทีวี เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ
หมุนเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า มาตรการช้อปช่วยชาติจะช่วยกระตุ้นให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ สร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยที่ดีขึ้น
“มาตรการนี้จะช่วยสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวม กล่าวคือ ไม่เพียงกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค แต่ทำให้บรรยากาศการค้าขายดีขึ้น ช่วยกระจายรายได้ ยิ่งหากเกิดการจ้างงานมากขึ้นจะดีมาก”
มือถืออัดแคมเปญ
นางสาวปริศนา รัตนสุวรรณศรี ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานธุรกิจโพสต์เพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ดีแทคได้ออกแคมเปญพิเศษลดราคาสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังทุกรุ่นสูงสุด 10,000 บาท ผ่อน 0% นาน 24 เดือน พร้อมรับฟรีเน็ต 4จี 48 กิกะไบต์และสามารถรับใบกำกับภาษีได้ทันที ณ จุดขาย
ด้านนายปรัธนา ลีลพนัง รักษาการ หัวหน้าคณะผู้บริหารการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า โดยเร็วๆ นี้จะมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะให้ลูกค้าด้วย โดยขณะนี้เอไอเอสกำลังทยอยออกแคมเปญช่วงปลายปี เช่น ไอโฟน โปรโมชั่น ซึ่งแน่นอนว่าสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ
นายอเล็กแซนดรอ บิสชินี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้าพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐ ร้านค้าในลาซาด้าพร้อมออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้านำไปลดหย่อน