พระราชทานยศ 'ร.ต.อ.' กรณีพิเศษ เหตุตร.พิการจากปฏิบัติหน้าที่
พระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานยศ "ร.ต.อ" ให้ตำรวจที่ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ หลังทุกข์มรมานมากว่า 20 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศตำรวจเป็นกรณีพิเศษ โดยมีเนื้อหาว่า มีพระราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานยศร้อยตำรวจเอก เป็นกรณีพิเศษ ให้แก่ จ่าสิบตำรวจ ไพโรจน์ อุส่าห์ดี ข้าราชการตำรวจ ซึ่งทุพพลภาพหรือพิการจนไม่สามารถรับราชการ ต่อไปได้เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2536 ประกาศ ณ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560 ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ทั้งนี้ ร.ต.อ.ไพโรจน์ เคยเข้ามาร้องเรียนต่อสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2553 โดยระบุว่าขณะนั้นเขา อายุ 52 ปี เป็นอดีตตำรวจประจำ สภ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุคคลทุพพลภาพ ร่างกายพิการและเป็นอัมพาต เนื่องจากประสบอุบัติเหตุจากหน้าที่จนพิการและโดนไล่ออกจากราชการ โดยมีนายตำรวจระดับ พล.ต.ท.ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สัญญาว่าจะให้บุตรสาวหลังเรียนจบปริญญาตรีเป็นนายร้อยตำรวจหญิงและให้ความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ได้รับการเยียวยา
ครั้งนั้น ร.ต.อ.ไพโรจน์ ระบุว่า ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายในคดีปล้นทรัพย์ที่จังหวัดแพร่ เมื่อปี พ.ศ. 2533 แล้วเกิดอุบัติเหตุ จนตัวเองพิการตลอดชีวิตมา ต่อมาก็มีคำสั่งจากกรมตำรวจ ปลดให้ออกจากราชการ อ้างว่าเป็นบุคคลทุพพลภาพ ขณะที่ภรรยาก็เลิกรา จนคิดฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้ง แต่แม่ตนก็แก่ชรามากและมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ตอนนั้นก็มีนายตำรวจยศ พล.ต.ท. จากสำนักงานตำรวจแห่งชาตินายหนึ่ง รับปากว่าถ้าลูกสาวเรียนจบปริญญาตรีจะให้เทียบติดยศตำรวจสัญญาบัตรและท่านจะช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง พร้อมทั้งตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือครอบครัว แต่ก็ยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด ทำให้ต้องขายปืนประจำตัวขนาด 9 มม. สร้อยคอทองคำ บ้าน และได้รับเงินที่ช่วยเหลือจากประชาชนที่ให้ความเมตตาเพื่อประทังชีวิตจนกระทั่งลูกสาวเรียนจบปริญญาตรีได้ เมื่อลูกสาวเรียนจบตนได้ทำเรื่องไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เรื่องก็เงียบหายไป