จับหนุ่มเนเธอร์แลนด์ หนีคดีโกงลงทุนอสังหาฯซุกไทย10ปี
กองปราบฯ สนธิกำลังตำรวจสากล จับหนุ่มเนเธอร์แลนด์ หนีคดีโกงลงทุนอสังหาฯจากยุโรปซุกไทย10ปี
ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) สนธิกำลังกับตำรวจสากลประเทศไทย และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุวรรณภูมิ เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาข้ามชาติ ชื่อ นาย บาอาทมันส์ โอลาฟ วิลเฮลมัส โจฮันเนส (Mr. BAARTMANS Olav Wilhelmus Johannes) สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ไม่มีหนังสือเดินทาง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยกล่าวหาว่า อยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายในคดีนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เมื่อสองปีที่ผ่านมา ตำรวจสากลประเทศไทย โดย พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา หัวหน้าตำรวจสากลไทย ได้รับการประสานงานจากตำรวจสากลประเทศเนเธอร์แลนด์ว่า มีคนร้ายรายนี้ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ได้เปิดบริษัทฉ้อโกงเหยื่อเป็นคนยุโรปจำนวนมากในหลายประเทศ
โดยอ้างว่าบริษัทนี้ไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ประเทศตุรกี แล้วจะตอบแทนด้วยกำไรที่งดงามในระยะเวลาอันสั้น หลังจากเหยื่อผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก หลงเชื่อโอนเงินมาลงทุนกับบริษัทแล้ว คนร้ายได้นำเงินทั้งหมดหลบหนีไป ก่อนมาพักอาศัยหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย ซึ่งคนร้ายเดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2550
ต่อมาจากการประสานงานข่าวกรองระหว่างตำรวจสองประเทศอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะๆ จนสืบทราบได้ว่าคนร้ายจะมารับเพื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทาง พล.ต.ต.อภิชาติ จึงได้นำเรียน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รอง ผบ.ตร.ฝ่ายต่างประเทศ ก่อนที่ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เข้าสั่งการควบคุมคดี พล.ต.อ.สุขาติ ได้สั่งสนธิกำลังตำรวจประกอบด้วยตำรวจ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ชัย สงวนสิน ตำรวจสากลไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย ผบก.ตม.2 นำกำลังเข้าสนับสนุนภารกิจนี้ จนกระทั่งสามารถจับคนร้ายรายนี้ได้ในที่สุด
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ความสำเร็จการจับกุมคนร้ายข้ามชาติที่มาหลบซ่อนตัวอยู่ในไทยรายนี้ เป็นอีกความสำเร็จหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย และยืนยันว่าจะไม่ยอมให้ประเทศไทยเป็นที่หลบซ่อนของอาชญากรข้ามชาติ และเป็นแหล่งที่ใช้ในการกระทำความผิดอย่างเด็ดขาด โดยการดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างความมั่นใจและความมั่นคงให้กับประเทศไทยในเรื่องการท่องเที่ยวและการลงทุน รวมทั้งเป็นไปตามนโยบายและแนวทางความร่วมมือของประชาคมอาเซียนในเรื่องของการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืนให้กับภูมิภาคนี้