ภารกิจ”เขมทัตต์”ผอ.อสมท ปั้น‘ดรีมทีม’ฟื้นรายได้
การกลับสู่องค์กรสื่อ“อสมท”ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ “เขมทัตต์ พลเดช” ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังร่วมงานครั้งแรกในปี2548
ต้องเผชิญความท้าทายในยุคที่ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยนแปลงสูง ทั้งการแข่งขันในธุรกิจทีวียุคดิจิทัลและการขยายตัวของสื่อออนไลน์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
เขมทัตต์ พลเดช ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าได้เตรียมเสนอแผนบริหารธุรกิจ อสมท ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารในเดือนเม.ย.นี้ ด้วยเป้าหมายขับเคลื่อน อสมท ให้กลับมาฟื้นตัวจากภาวะขาดทุนในปีนี้ โดยจะพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น พร้อมสร้างโอกาสหารายได้จากจุดแข็งการเป็นองค์กรสื่อครบวงจร
แนวทางการดำเนินงานหลังจากนี้ จะปรับเรื่องโครงสร้างการทำงานใหม่ จากเดิมฟังก์ชั่นการทำงานเป็นแบบแยกส่วนในแต่ละสำนักกิจการ ทำให้มีต้นทุนเกิดขึ้นในหลายส่วนงาน รวมทั้งความล่าช้าในการพิจารณาแผนงานต่างๆ ร่วมกัน
นโยบายบริหาร อสมท จากนี้จะเป็น One Team, One Company และ One Direction โดยจะแต่งตั้งคณะทำงาน“ดรีมทีม”ขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งเป็นตัวแทนจากทุกสำนักกิจการใน อสมท เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการทำงานตอบโจทย์ลูกค้าทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน ที่เป็นพันธมิตรกับ อสมท
ปัจจุบันโจทย์การสื่อสารของสินค้าและแบรนด์ต้องการ“สื่อครบวงจร” ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เสพคอนเทนท์หลากหลายช่องทาง ซึ่ง อสมท มีความพร้อมในทุกแพลตฟอร์มสื่อ ทั้งฟรีทีวี 2 ช่อง, วิทยุทั่วประเทศ,สื่อออนไลน์ ,ดิจิทัล เซอร์วิส แพลตฟอร์มต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานผลิตคอนเทนท์ทั้งสำนักข่าวไทย,ไนน์เอ็นเตอร์เทน เป็นต้น
พร้อมทั้งกำหนดกลยุทธ์สร้างเอ็นเกจเมนต์ กับผู้บริโภคในทุกช่องทาง ทั้งออฟไลน์และโซเชียล มีเดีย เพื่อสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ รวมทั้งสร้างพาร์ทเนอร์ชิพ ในทุกกลุ่มที่ทำงานร่วมกับอสมท ทั้งผู้ผลิตรายการทีวี ผู้เช่าใช้โครงข่ายส่งสัญญาณทีวีดิจิทัล (Mux) เพื่อกำหนดทิศทางขับเคลื่อน อสมท ร่วมกัน
สำหรับสื่อฟรีทีวีทั้ง 2 ช่อง ได้แก่ ช่อง 9 เอ็มคอท เอชดี และเอ็มคอท แฟมิลี่ จะต้องปรับโพซิชันนิ่งใหม่ ให้มีความแอคทีฟ เพิ่มเติมเรื่องความรู้...ดูสนุก โดยยังคงความหลากหลายของเนื้อหาที่นำเสนอ การปรับทิศทางดังกล่าวเปรียบเสมือนการสร้างบ้านที่ต้องวางรากฐานก่อน คาดว่าจะใช้เวลาราว 2-3 เดือน จากนั้นจะเห็นผลภายในปลายปี 2560
“เรทติ้ง ช่อง 9 อยู่อันดับ 10-11 ทั้งที่ผ่านมายังไม่ได้ปรับรายการมากนัก เชื่อว่าหลังจากปรับโพซิชันนิ่งใหม่ จะสามารถกลับมาติดท็อปของกลุ่มทีวีดิจิทัลได้ไม่ยาก เพราะอันดับ 6-10 มีเรทติ้งห่างกันไม่มาก”
นอกจากนี้พร้อมให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐ ซึ่งไทยกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 อสมท จึงต้องทำหน้าที่สื่อในการช่วยสร้างความเข้าใจกับสังคมต่อนโยบายของรัฐบาล ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบของข่าวเท่านั้น แต่อาจเป็นรูปแบบวาไรตี้ หรือ ควิซโชว์
ทั้งนี้ การสร้างรายได้จะมาจาก 2 ทาง ได้แก่ ธุรกิจบรอดแคสต์ ซึ่งรายการทีวีมีต้นทุนในการผลิต จึงต้องพิจารณารายการที่มีเรทติ้งและสร้างรายได้ในอนาคต และธุรกิจ นอน-บรอดแคสต์ เป็นไดเรคชั่นใหม่ที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ อสมท มีอยู่ เช่น คลื่นความถี่ ที่ดิน ธุรกิจดิจิทัลมีเดีย เป็นต้น เพื่อสร้างโอกาสการหารายได้มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นของมีมูลค่าที่ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
เป้าหมายปีนี้คือพลิกฟื้นรายได้จากทุกธุรกิจในเครืออสมทและลดภาวะขาดทุนจากปีก่อน เพื่อโอกาสการกลับมาทำรายได้ที่ดีขึ้นในปี2561