‘ส่องกล้อง’ สกัดมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งสำไส้ใหญ่ มฤตยูเงียบที่ไม่ส่งสัญญาณเตือนจนอาการของโรครุนแรง ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงหลัก คือ อายุที่เพิ่มขึ้น
มะเร็งสำไส้ใหญ่ มฤตยูเงียบที่ไม่ส่งสัญญาณเตือนจนอาการของโรครุนแรง ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงหลัก คือ อายุที่เพิ่มขึ้น
มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบมากขึ้นในประเทศทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แม้สาเหตุที่แท้จริงจะยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ก็มีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงหลัก คือ อายุที่เพิ่มขึ้น หากมีสมาชิกสายตรงในครอบครัว (พ่อ แม่ พี่น้อง ลูก) เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป 2-3 เท่านอกจากนี้อาจเกิดจากโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังที่มีอาการต่อเนื่องมานานหลายปี ก็เสี่ยงเพิ่ม 2 เท่าเช่นเดียวกับกลุ่มที่เป็นโรคทั่วไป เช่น เบาหวาน น้ำหนักเกิน ไขมันในตับ
15 ปีมาแล้วที่สหรัฐอเมริกาและโซนยุโรปให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองมะเร็งสำไส้ใหญ่ ข้อมูลที่น่าสนใจคือ 90% ของการตรวจพบมะเร็งสำไส้ใหญ่จะเริ่มจากติ่งเนื้อขนาดเล็กที่ค่อยๆ โตขึ้น โดยใช้เวลา 3-5 ปีก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง ฉะนั้น หากพบแต่เนิ่นๆ และสามารถตัดติ่งเนื้อได้ทันก็จะป้องกันได้ ถ้าส่องกล้องแล้วพบติ่งเนื้อขนาดเล็กกว่า 1 เซนติเมตร แนะนำให้ตรวจซ้ำทุก 3-5 ปี ถ้าติ่งใหญ่กว่า 1 เซนติเมตรอาจจะตรวจทุก 1-3 ปี ส่วนผู้ที่ไม่พบติ่งเนื้อก็กลับมาตรวจอีกที 5-10 ปีถัดไป แต่สำหรับผู้ที่มีภาวะดื้ออินซูลินก็อาจจะทำถี่ขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับภาวะร่างกายและปัจจัยการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ของแต่ละคน
“การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการคัดกรองและเฝ้าระวังมะเร็งสำไส้ ช่วยให้ตรวจพบก้อนเนื้อได้ในระยะแรก ส่งผลให้การวินิจฉัยวางแผนรักษาได้ถูกต้อง แม่นยำและลดค่าใช้จ่าย” แพทย์หญิงปิตุลักษณ์ อัศวกุล อายุรแพทย์ด้านโรคระบบทางเดินอาหารและโรคตับ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท กล่าวและว่า
การส่องกล้องถือเป็นการตรวจแบบศัลยกรรมอย่างหนึ่ง คนส่วนใหญ่มักจะกลัวว่า จะรู้สึกตัวไหมเวลาที่ทำการส่องกล้อง จะเจ็บไหม จะเจอโรคไหม เป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวล เพราะขั้นตอนยุ่งยากที่สุดคือ การเตรียมตัวของคนไข้ก่อนการส่องกล้อง คนไข้ต้องเคลียร์สำไส้ให้พร้อมด้วยการรับประทานยาระบาย ซึ่งอาจจะทำให้ถ่ายเหลว 6-8 ครั้ง ก่อนทำการส่องกล้องคนไข้จะได้รับการฉีดยานอนหลับและยาลดอาการปวด เพื่อลดความรู้สึกตึงแน่นในท้องจากการเป่าลมเข้าไปเพื่อให้ลำไส้ขยายตัวออกเหมือนลูกโป่งที่พองตัว แพทย์จะได้เห็นความผิดปกติภายในได้อย่างละเอียด ใช้ระยะเวลาในการทำโดยเฉลี่ย 20-30 นาที ฉะนั้นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ ทำให้ประเทศไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษา