ชู “2561”ปีแห่งการท่องเที่ยวไทยหวังโกย3ล้านล้านบาท
ท.ท.ช.ไฟเขียวชูปี 2561 “ปีแห่งการท่องเที่ยวไทย” โชว์ศักยภาพคว้ารางวัลจากการจัดอันดับหลากหลายหมวดหมู่เป็นจุดขาย พร้อมดันสตรีทฟู้ดไทยแจ้งเกิดต่อเนื่อง เชื่อผลักดันรายได้โต 10% แตะ 2.97-3 ล้านล้านบาท
พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ท.ท.ช.มีมติอนุมัติให้ปี 2561 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยจะรวบรวมและนำเสนอจุดเด่นของประเทศ ที่ได้รับรางวัลและการจัดอันดับยกย่องหลายด้าน เช่น การเป็นจุดหมายอาหารริมทาง (สตรีทฟู้ด) อันดับหนึ่งของโลก การมีแหล่งท่องเที่ยวได้รับความนิยมติดกลุ่มผู้นำของโลก มานำเสนอศักยภาพด้านการรองรับท่องเที่ยว ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะทำให้รายได้ท่องเที่ยวปีหน้า เติบโตราว 10% หรือคิดเป็น 2.97-3 ล้านล้านบาท
สำหรับการประกาศเป็นปีแห่งการท่องเที่ยว เนื่องจากต้องการให้เกิดความตื่นตัวในการรักษามาตรฐานคุณภาพบริการต่างๆ ที่เคยได้รับมา และทำให้ชื่อเสียงเป็นที่รับรู้ของชาวต่างชาติมากขึ้น มีเป้าหมายระยะยาวใน 10 ปีจะผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ด้านท่องเที่ยวสูงติด 10 อันดับแรกของโลก
ดังนั้น เพื่อให้เกิดการปฏิบัติเป็นรูปธรรม ได้มอบหมายให้จัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว โดยมีนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน ซึ่งสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์คือ การรักษามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวและบริการเกี่ยวเนื่อง, การยกระดับด้านความปลอดภัย และการมีแหล่งท่องเที่ยวหรือสินค้ากิจกรรมใหม่รองรับพฤติกรรมการเดินทางที่แปลกใหม่มากขึ้น
นอกจากนั้น ที่ประชุมอนุมัติจัดทำโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งในปัจจุบันมีชุมชนหรือหมู่บ้านที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว 99 ชุมชนเข้าร่วม ปัจจุบันชุมชนเหล่านั้นมีรายได้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อชุมชนแล้ว โดยชุมชนเหล่านี้ จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่เป็นแนวโน้มที่กำลังเติบโตอย่างมากได้ ทั้งนี้ มอบให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เข้ามาเป็นแกนกลางในการร่วมประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยพัฒนาการโครงการดังกล่าวโดยตรง
สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.2560 รายได้ด้านการท่องเที่ยวเติบโต 6.92% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 แต่ในเชิงปริมาณ พบว่าตลาดจีนประเภทกรุ๊ปทัวร์ลดลง 20% จากการปรับตัวเข้าสู่ทัวร์คุณภาพ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังประเมินว่าจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากเริ่มมีสายการบินเช่าเหมาลำ ทำการจองเข้ามาเพิ่มขึ้นแล้ว ขณะนี้แม้เริ่มมีทัวร์ผิดกฎหมายกลับมาสร้างปัญหาบ้าง แต่ตำรวจท่องเที่ยวตรวจตราและเข้าจับกุมอย่างรวดเร็ว อีกทั้งส่งรายชื่อบริษัททัวร์และไกด์ทัวร์ที่มีปัญหาให้กรมการท่องเที่ยวสั่งพักหรือถอนใบอนุญาติประกอบธุรกิจทันที