“แสนสิริ”เล็งผนึกสมิติเวชตั้งเฮลท์แคร์

“แสนสิริ”เล็งผนึกสมิติเวชตั้งเฮลท์แคร์

“แสนสิริ” ลงนามพันธมิตรรพ.สมิติเวช เล็งผุดศูนย์สุขภาพในโครงการอสังหาฯในเครือ ตอบโจทย์บริการสุขภาพลูกบ้านแต่ละวัย  

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อพัฒนาโครงการต่างๆร่วมกัน เช่น การจัดตั้งศูนย์เมดิคัล และเวลเนสเซ็นเตอร์ เอื้ออำนวยกับการใช้ชีวิตของลูกบ้านภายในโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ หลังจากที่ได้ลงนามสัญญาเป็นพันธมิตรกับทางสมิติเวช เพื่อให้เป็นที่ปรึกษาและช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในการออกแบบและแนะนำเรื่องการใช้วัสดุกับสนามเด็กเล่นภายในโครงการ

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าว อาจรวมถึงการให้บริการ บำรุงซ่อมแซม รวมถึงบริการเพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์ลูกบ้านแต่ละวัย รวมถึงกลุ่มผู้สูงวัยด้วย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในระยะเวลาอีก 3-5 ปีจากนี้ จะมีสัดส่วนผู้สูงวัย กว่า 20%ของประชากรทั่วประเทศ

สำหรับสนามเด็กเล่น แบบ educational playground เป็นหนึ่งในแคมเปญ “Fill your life with good” ที่บริษัทได้ใช้งบลงทุนกว่า50ล้านบาทจัดทำแคมเปญ ตลอดระยะเวลา6เดือนโดยชู 6 ฟังก์ชันที่ออกแบบให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในแต่ละโครงการและเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิต เช่น สระว่ายน้ำพร้อมระบบเสียงเพลงใต้น้ำ,ครัวส่วนกลางที่ใช้เป็นพื้นที่จัดปาร์ตี้ได้,ที่จอดรถออกแบบให้มีพื้นที่กว้างเป็นพิเศษและจัดไฟเหมือนโชว์รูมรถยนต์ เป็นต้น

ปัจจุบันมีโครงการนำร่องที่บริษัทได้เลือกนำบางฟังก์ชันไปใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละโครงการ ได้แก่ โครงการคณาสิริ รังสิต คลอง2, โครงการเศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า กาญจนา และโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา ทั้งยังเตรียมนำฟังก์ชันไปใช้กับโครงการอื่นๆในอนาคต เช่น โครงการบุราสิริ วัชรพล และโครงการบุราสิริ ราชพฤกษ์ 345

สำหรับโครงการ Dcondo Ping แสนสิริ มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท จำนวน 687 ยูนิต ได้ไปโรดโชว์ที่ประเทศฮ่องกง ขายได้ 100 ยูนิต และกำลังจะนำคอนโดมิเนยมนี้ไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์และประเทศไต้หวัน และจะเริ่มเปิดขายโครงการในไทย เดือนสิงหาคมนี้

ส่วนภาพรวมตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปียังมีคอนโดที่ยังคงค้าง ประมาณ 5 หมื่นยูนิต ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดูดซับตลาดประมาณ 9-10 เดือน โดยมองว่าคอนโดยังโอเวอร์ซัพพลายเป็นบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณสายสีม่วง ตอนปลาย และคอนโดที่โอเวอร์ซัพพลายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคอนโดตลาดกลาง-ล่าง ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าภาพรรวมจะมีแนวโน้มดีขึ้น จากภาคการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว แต่ก็อาจต้องพิจารณาควบคู่กับสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มเติม