แบงก์ 'แข่งสินเชื่อ' บ้านดบ.ต่ำ 3%

แบงก์พาณิชย์เผยสินเชื่อบ้านครึ่งปีแรกเติบโตดี เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจะชะลอตัว แต่เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นของรัฐในปีก่อน เผยครึ่งปีหลังอัดโปรโมชั่นดอกเบี้ยถูกต่ำกว่า 3%ดึงลูกค้า บางแห่งแม้ไม่มีโปรโมชั่นโดยรวม แต่ก็เจรจาให้ลูกค้าเป็นกรณีพิเศษ

นางสาวจามรี เกษตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มสินเชื่อบ้านของไทยพาณิชย์ในปีนี้น่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้  มีสินเชื่อใหม่ประมาณ 1 แสนล้านบาท อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า โดยช่วงครึ่งปีแรกปล่อยไปแล้วประมาณ 4 หมื่นล้านบาท แต่ช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก

“ภาพรวมสินเชื่อบ้านของตลาดยังทรงตัว ไม่ได้หวือหวา แต่ก็ไม่ได้แย่ เรียกได้ว่าเกือบเข้าเป้า ช่วง 5เดือนแรกก็เฉียดไปแค่ 4-5%พลาดเป้าไม่เยอะมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีฐานสูง จากผลมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ทำให้เกิดการเร่งโอน ส่งผลให้ยอดการโอนที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ติดลบ15%ขณะที่ ยอดคงค้างสินเชื่อที่อยู่อาศัย ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5-6 แสนล้านบาท ปีนี้ยอดคงค้างยังเติบโตเป็นบวก แต่อาจจะมีการปรับเป้าหมายเติบโตลงเล็กน้อย จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่”

ช่วงที่เหลือของปีนี้ ธนาคารยังมีการทำโปรโมชั่นกระตุ้นสินเชื่อบ้านต่อเนื่อง โดยเน้นทำโปรแกรมพิเศษสำหรับลูกค้าโครงการของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือ ดีเวลล็อปเปอร์ ซึ่งสุดได้ร่วมกับบริษัท แสนสิริ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ2.99%

ทั้งนี้การแข่งขันด้านราคา ยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการกระตุ้นสินเชื่อบ้าน ที่ต้องจูงใจลูกค้า แต่ไม่ใช่ทั้งหมด โดยต้องให้ความสำคัญกับการให้บริการและความเข้าใจลูกค้าด้วย เน้นตอบโจทย์บริการทางการเงินที่ลูกค้าต้องการ เพราะเป้าหมายไม่ใช่แค่ปล่อยสินเชื่อบ้าน แต่อยากให้ลูกค้าอยู่กับธนาคารนานๆ

“เรื่องราคา หรืออัตราดอกเบี้ย ยังเป็นกลยุทธ์จำเป็นในการกระตุ้น แต่เราไม่อยากให้ใช้ราคาอย่างเดียวเป็นตัวดึงลูกค้า อยากให้ดูเรื่องบริการ แต่ดอกเบี้ยก็ต้องไม่แย่ หรือดูแล้วเซ็กซี่หน่อยๆ สามารถแข่งขันในตลาดได้ ซึ่งการทำดอกเบี้ยต่ำกว่า 3%เราไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำ ในตลาดมีคนทำอยู่ก่อนแล้ว ”

สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในระบบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ของไทยพาณิชย์ เอ็นพีแอลสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 2%  ต่ำกว่าตลาดที่อยู่ 3.4% โดยธนาคารได้บริหารจัดการเอ็นพีแอลให้อยู่ระดับต่ำ ทั้งการคัดกรองลูกค้าหน้าบ้าน และหลังบ้านที่มีระบบดูแลลูกค้า หากลูกค้าผ่อนไม่ไหว จะเข้าไปช่วยเหลือผ่อนปรนหลักเกณฑ์ เช่น ลดค่างวด และขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ 

นอกจากนี้ ก็มีการขายเอ็นพีแอลออกไปบ้างเช่นเดียวกับธนาคารอื่น นโยบายธนาคารไม่คิดจะยึดทรัพย์ลูกค้ามาขาย เว้นลูกค้าที่ไม่ไหวจริงๆ บางคนเอาบ้านมาให้ธนาคารเองเลย

ด้านน.ส.กาญจนา โชคไฟศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า แนวโน้มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเติบโตชะลอลง ตามยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่หดตัวต่อเนื่อง โดยจากต้นปีจนถึงปัจจุบันยอดการโอนปรับลดลงไปกว่า11-14%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้ธนาคารพาณิชย์ยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อเพราะเอ็นพีแอลยังปรับเพิ่มขึ้นอยู่

“ปีนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยยังมีการเติบโต แต่เติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง ตามภาวะเศรษฐกิจ และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนก็ปรับลดลงเนื่องจากปีก่อนฐานการเติบโตค่อนข้างสูงจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลทำให้ผู้บริโภคมีการเร่งโอนที่อยู่อาศัย”

โดยในปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ปรับคาดการณ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยลงเหลือ 5.5% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 7% ขณะที่ปีก่อนหน้าเติบโตอยู่ที่6.9%อย่างไรก็ตามแม้ว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะปรับลดลง แต่ก็ถือว่ามีการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับสินเชื่อในกลุ่มอื่นๆ และเป็นสินเชื่อหลักๆที่ทำให้สินเชื่อรายย่อยของธนาคารพาณิชย์ปีนี้มีการเติบโต โดยมองว่าสินเชื่อรายย่อยของธนาคารพาณิชปีนี้จะเติบโต4.5%จากปีก่อนโต4.9%ส่วนสินเชื่อทั้งระบบโดยรวมมองว่าจะมีการเติบโต4%จากปีก่อนเติบโต2.4%

ด้านนายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ภาพรวมสินเชื่อที่อยู่อาศัยครึ่งปีแรก เติบโตดีมาก และดีสุดในบรรดาสินเชื่อรายย่อย โดยเติบโตแล้ว5-6%จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้10% คาดว่าปีนี้สินเชื่อบ้านจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในส่วนของธนาคารในช่วงครึ่งปีหลัง ยังจะมีการขยายโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย3.3%ต่อไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งยอมรับว่าสินเชื่อบ้านมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีฐานรายได้สูงแข่งขันอัตราดอกเบี้ยกันแรง บางรายให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า3%