ญาติวอนช่วยเหลือแรงงานไทยหนีวีซ่าร์ทำงานที่ญี่ปุ่น ป่วยไตวายเสียค่ารักษาอาทิตย์ละ 150,000 บาท อยากกลับบ้านแต่ไม่มีเงินแล้ว
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ว่ามีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Thanakorn Jaisuksakuldee ได้โพสข้อความระบุใจความสำคัญว่า ขอความช่วยเหลือแรงงานไทย ชาว จ.อุดรธานี ที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่นแบบผิดกฎหมาย กับภรรยาชาวอุดรธานีเช่นกัน แต่ทั้งคู่ได้เข้ามอบตัวกับทางกองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น เพื่อขอกลับบ้าน แต่เกิดป่วยไตวายกะทันหัน ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา แต่แรงงานรายนี้ไม่มีสิทธิในการรักษาตัว ต้องเสียเงินค่ารักษากับทางโรงพยาบาลในญี่ปุ่น สัปดาห์ละ 150,000 บาท โดยผู้โพสระบุขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อ่านโพสคนละเล็กละน้อย ทราบชื่อแรงงานไทยว่า นายสันติ สนสายสิงห์ อายุ 40 ปี ชาว จ.อุดรธานี
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 41 หมู่ 8 บ้านถ่อนน้อย ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี บ้านของนายสันติ พบนางสมคิด พระศรีอิน อายุ 43 ปี ญาติผู้พี่ของนายสันติฯ ที่กำลังเตรียมทำข้าวหลามกับญาติ ๆ ที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และพูดคุยเรื่องของนายสันติฯ ที่กำลังรอความช่วยเหลืออยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น
นางสมคิด พระศรีอิน เล่าว่า นายสันติ ลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งพ่อแม่ของนายสันติฯ เสียชีวิตไปแล้ว ได้หลบหนีเข้าไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นแบบผิดกฎหมาย เพื่อที่จะหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว โดยไปได้ประมาณ 3-4 ปี เงินที่ได้ก็ส่งกลับมาใช้หนี้ ที่เป็นค่านายหน้าและค่าเดินทางประมาณ 5 แสนบาท แต่ครั้งแรกโดนหลอกไปทำงาน ไม่สามารถติดต่อได้ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นก็ได้ติดต่อพูดคุยกัน และบอกจะไปทำงานก่อสร้าง ก็ส่งเงินมาใช้หนี้เดือนละ 2-3 หมื่น จนเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว นายสันติฯ ได้ชวนภรรยาไปทำงานด้วย เป็นงานเกษตร แต่ทำที่ไหนตนไม่ทราบ จนช่วงกลางเดือนตุลาคม น้องชายบอกว่าจะกลับบ้าน เพราะรายได้ไม่ได้ดีอย่างที่หวัง จึงพากันเข้ามอบตัวกับทางกองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น
“แต่กฎหมายของญี่ปุ่น ต้องให้ผู้หลบหนีเข้าเมืองเข้ารายงานตัว 3 ครั้ง จึงจะได้กลับ ซึ่งน้องชายมีกำหนดกลับประเทศไทยในวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่เมื่อมารายงานตัวครั้งที่ 2 น้องชายเกิดป่วยกระทันหัน ทำให้ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นไตวายเฉียบพลัน ซึ่งทางภรรยาของน้องชายโทรศัพท์มาบอก ทางญาติเมื่อทราบข่าวก็พากันเป็นห่วง แต่ภรรยาน้องชายบอกว่าเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล มีค่าใช้จ่ายแพงมากอาทิตย์ละประมาณ 5 แสนเยน หรือประมาณ 150,000 บาท และทางภรรยาน้องชายบอกว่า ตอนนี้ไม่มีเงินเลย เพราะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินที่จะกลับประเทศไทยไปแล้ว 2 คน 70,000 บาท แต่ก็ไม่ได้บินกลับตามกำหนดเสียค่าตั๋วฟรี จนมีเพื่อนคนไทยในญี่ปุ่นที่เห็นใจจึงโพสต์ลงโซเซียลให้ช่วยเหลือ”
นางสมคิด บอกอีกว่า ทางบ้านเรามีฐานะยากจน ตอนนี้ได้ไปกู้เงินจากคุณครูที่เคยสอนหนังสือตนและนายสันติฯมาก่อน เป็นเงิน 150,000 บาท โดยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 บาท เพื่อส่งไปช่วยเหลือค่ารักษาน้องชายงวดแรก ซึ่งงวดที่ 2 จะครบในวันศุกร์นี้ ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนส่งไปให้อีก 150,000 บาท ซึ่งตอนนี้อาการดีขึ้น แต่ยังต้องฟอกไต อยากขอความเมตตาผู้ที่มีจิตเป็นกุศล ช่วยค่ารักษาน้องชาย หากมีผู้ใจบุญอยาจะช่วย และสามารถนำน้องชายและภรรยากลับมาเมืองไทยได้ ก็ขอขอบพระคุณอย่างยิ่ง
นางยุทธศาสตร์ ทูลกลาง นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สนง.จัดหางาน จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า (ทางโทรศัพท์) ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และเตรียมที่จะเดินทางเข้าไปพบกับทางญาติของแรงงานคนดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่าเป็นการเข้าไปทำงานแบบผิดกฏหมาย ที่จะไม่สามารถช่วยเหลือได้ โดยทาง สนง.จัดหางานจังหวัด จะเข้าไปให้คำแนะนำกับทางญาติของแรงงานทั้ง 2 คน ในการประสานกับทางกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจะส่งตัวทั้ง 2 คนกลับมา