สอบเพิ่มพยานแค่8จาก21ปาก แก้ข้อหาฟอกเงิน 'พานทองแท้'

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) -26 ธ.ค.60 แหล่งข่าวจาก ดีเอสไอ เปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการสำนักการสอบสวน เพื่อพิจารณาคำให้การแก้ข้อกล่าวหาของนายพานทองแท้ ชินวัตร กับพวก ซึ่งระบุให้ดีเอสไอเรียกสอบสวนพยานบุคคลจำนวน 21 ปาก ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหากระทำไปโดยสุจริต ไม่ได้มีเจตนาฟอกเงินหรือร่วมกันฟอกเงิน

ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องสอบสวนพยานตามที่ผู้ต้องหาระบุ แต่พยานบางปากไม่เกี่ยวข้องกับคดี การเรียกสอบปากคำอาจเป็นพฤติการณ์ประวิงคดี จึงอนุมัติให้สอบสวนเฉพาะพยานที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีจำนวน 8 รายเท่านั้น โดยทำหนังสือแจ้งให้ผู้ต้องหาประสานให้นำพยานเข้าให้ปากกับพนักงานสอบสนนภายในเดือนม.ค.นี้ หากพ้นกำหนดถือว่าผู้ต้องหาและพยานไม่ติดใจจะเข้าให้ปากคำ

สำหรับพยานทั้ง 8 ปาก ที่พนักงานสอบสวนอนุมัติให้สอบปากคำ ประกอบด้วย พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ อดีตรองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะอดีตหัวหน้าพนังานสอบสวน พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประดิษฐ์ ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและการตรวจสอบ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวน และพยานบุคคลซึ่งเป็นเลขานุการส่วนตัว พนักงานบัญชี และผู้ที่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของผู้ต้องหาอีก 6 ปาก

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของพยานบุคคลที่พนักงานสอบสวนไม่อนุมัติให้สอบปากคำเนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนวนคดี อาทิ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีดีเอสไอ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งถูกระบุเป็นพยานที่จะให้ความคิดเห็นในประเด็นข้อกฎหมาย นายวีระ สมความคิด เอ็นจีโอ ซึ่งเข้ายื่นหนังสือขอให้ดีเอสไอสอบสวนดำเนินคดีฟอกเงินอย่างไม่เลือกปฏิบัติ และพยานที่เป็นบุคคลใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ต้องหาอีกจำนวนหนึ่ง