จับซ้ำสาวแสบหลอกคนงานไปทำงาน ตปท.ขณะถูกจับยังไลน์หาเหยื่อโอนเงินส่วนที่เหลือ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 มกราคม นายอภิชาติ วงษ์กาฬสินธุ์ ผช.จัดหางาน จ.อุดรธานี,นางยุทธศาสตร์ ทูลกลาง หน.งานคุ้มครองคนหางาน สนง.จัดหางาน จ.อุดรธานี,พ.ต.ท.กุลธวัช จันทราบุตร สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ สนง.จัดหางานจังหวัด และตำรจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี นำหมายศาลจังหวัดชัยภูมิ เข้าทำการจับกุม น.ส.อทิตยา หรือ ติ๊ก ทองฉัตร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 902/42 ม. 2 ถ.เลียบคลองชลประทาน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ในข้อกล่าวหา “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปด้วยเงินหรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และฉ้อโกงทรัพย์” โดยจับกุมที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซ.ประชาสันติ ชุมชนบ้านม่วง เทศบาลนครอุดรธานี หลังทำการจับกุม เจ้าหน้าที่ทั้งหมดนำตัว น.ส.อทิตยา มาทำการลงบันทึกการจับกุมที่ชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี โดย น.ส.อทิตยา ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์และแชตติดต่อกับคนรู้จักตลอดเวลา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่ สภ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ที่ สนง.จัดหางาน จ.อุดรธานี ถ.รอบเมือง เขตเทศบาลตำบลหนองสำโรง อ.เมือง น.ส.ธัญชนก พระจันทร์ อายุ 36 ปี อยู่ที่65/1ม.5 ต.ท่าศาลา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นำ นายเฉลิมชัย คามนา อายุ 23 ปี อยู่ที่ 204 ม.5 ต.ท่าศาลา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ลูกพี่ลูกน้อง ที่เป็นผู้เสียหายจาก จ.ขอนแก่น ที่ถูก น.ส.อทิตยา หลอกลวง เดินทางมาส่งมอบเอกสารการโอนเงิน พร้อมให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ถูก น.ส.อทิตยา หลอกว่า สามารถส่งไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 100,000 บาท โดย น.ส.ธัญชนกณ เป็นผู้โอนเงินให้ น.ส.อทิตยาฯ ไปล่วงหน้า 50,000 บาท เป็นก้อนแรก ที่ น.ส.อทิตยา อ้างว่า เป็นเงินค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าที่พัก และยังค้างเงินก้อนที่ 2 อีกประมาณ 38,000 บาท
ซึ่งขณะที่ น.ส.ธัญชนก กำลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ปรากฎว่า น.ส.อทิตยา ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนำส่ง สภ.บ้านแท่น อยู่ระหว่างการเดินทาง ได้ไลน์มาหา น.ส.อทิตยา บอกให้รีบโอนเงินส่วนที่เหลือให้ โดยโกหกว่า ได้ส่งเอกสารต่าง ๆ ให้กับทางต่างประเทศแล้ว ขอให้ น.ส.ธัญชนก รีบโอนเงินให้ภายในเวลา 15.30 น. รวมทั้งได้เรียกสายเข้ามาหลอกอีกว่า ให้รีบโอนเงินให้ด่วน เพราะหากโอนช้าจะไม่ได้ทำเอกสารและจะไม่ได้เดินทาง โดยทาง น.ส.อทิตยา ไม่ทราบว่า ทาง น.ส.ธัญชนก รู้เรื่องที่ น.ส.อทิตยา ถูกจับกุมตัว กำลังเดินทางนำส่ง สภ.บ้านแท่น แล้ว
นายอภิชาติ วงษ์กาฬสินธุ์ ผช.จัดหางาน จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า น.ส.อทิตยา เคยถูก ผวจ.อุดรธานี เข้าจับกุมมาแล้ว เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559 เมื่อครั้งเปิดเป็นโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีชื่อ เอกอุดรภาษา โดยได้รับการร้องเรียนจากคนหางานใน จ.อุดรธานี และใกล้เคียง ว่ามาสมัครไปทำงานยังประเทศเกาหลีใต้กับทางโรงเรียนดังกล่าว ที่อ้างว่าสามารถส่งแรงงานไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ได้ โดยมีการเรียกเก็บเงินค่าสมัครไปทำงานคนละประมาณ 150,000 บาท แต่กลับไม่ได้ไปทำงาน ซึ่งมีผู้เสียหายครั้งนั้นประมาณ 26 คน ค่าเสียหายรวมกว่า 3 ล้านบาท มีการดำเนินคดีส่งฟ้องศาลตัดสินไปแล้วบางส่วน และยอมคืนเงินชดใช้บางส่วน ที่ศาลตัดสินลงโทษ ให้รอลงอาญา แต่ให้คุมประพฤติไว้
“หลังจากนั้นมา น.ส.อทิตยา ยังคงแอบอ้างว่า เปิดโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีอีก ทั้งทางสื่อออนไลน์ เฟสบุ๊ค รวมทั้งใช้วิธีปากต่อปาก จนมีผู้หลงเชื่อมาสมัครอีก โดยย้ายสถานที่ใหม่ที่ถูกจับกุม จะใช้วิธีเปิดสอนภาษาเกาหลี เรียกเก็บเงินประมาณ 15,000 บาท แต่เมื่อมีผู้มาเรียนได้สักพัก ก็จะบอกว่าเรียนไปก็คงไม่ผ่านภาษาเกาหลี แต่สามารถหางานให้ที่ประเทศออสเตรเลียได้ แต่ต้องเสียเงินค่าดำเนินการ 100,000-150,000 บาท จนมีเหยื่อหลงเชื่อหลายราย แต่ไม่สามารถเดินทางไปได้ มีทั้งผู้เสียหายทั้งในเขต จ.ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี ที่แจ้งความไว้แล้ว จนศาลอนุมัติหมายจับ น.ส.อทิตยา 3 หมาย ในเขตท้องที่ สภ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ 2 หมายจับ,อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น 1 หมายจับ และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี กำลังขอศาลออกหมายจับเพิ่มอีก”
นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า ตัว น.ส.อทิตยา ซึ่งอยู่ระหว่างคุมประพฤติ ยังคงมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้อื่นอีก ด้วยเรื่องแบบเดิม ไม่เกรงกลัวความผิด ซึ่งเมื่อนำตัวส่งทาง สภ.บ้นแท่น แล้ว จะขอให้พนักงานสอบสวนค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะหลบหนี สร้างความเสียหายกับบุคคลอื่นอีก หากมีผู้เสียหายที่ถูก น.ส.อทิตยา หลอกลวง ขอให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม เพื่อที่จะดำเนินการตามกฎหมาย
“ซึ่งการหลอกลวงแรงงานไปทำงานต่างประเทศ ทาง รมว.แรงงาน และ อธิบดีกรมการจัดหางาน มีความเป็นห่วงว่าจะมีคนหางานถูกหลอกลวงในลักษณะเช่นนี้ จึงได้สั่งการให้ทาง สนง.จัดหางานทุกจังหวัด เร่งรัดให้ดำเนินคดีกับสาย นายหน้าเถื่อน ที่หลอกลวงคนหางาน ที่ต้องเสียเงินเป็นหนี้สิน ทั้งนี้หากต้องการไปทำงานต่างประเทศ ขอให้ติดต่อมายัง สนง.จัดหางาน ที่อยู่ทุกจังหวัด เพื่อตรวจสอบว่า มีงานต่างประเทศที่ไหน หรือ ไปสมัครกับสาย หรือ นายหน้าเถื่อนหรือไม่ เพื่อที่คนหางานจะได้ไม่ต้องถูกหลอกลวง”