สปส.จี้บ.รับเหมาชำระเงินทดแทน-เงินสมทบ 13.2 ล้าน
สปส.จี้บ.รับเหมาก่อสร้างหักเงินสมทบแล้วไม่นำส่ง ให้ชำระเงินทดแทน-เงินสมทบกองทุนประกันสังคมของลูกจ้าง 150 คน รวม 13.2 ล้านบาทภายใน 2 มี.ค. นี้
คืบหน้ากรณีลูกจ้างบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ในย่านบางประกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ประมาณ 150 คน ได้เข้าแจ้งความ ณ สถานีตำรวจภูธรบางปะกง เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 เพื่อดำเนินคดีกับนายจ้างเนื่องจากหักเงินสมทบแล้วไม่นำส่งเข้ากองทุนประกันสังคมในฐานความผิดฉ้อโกงจนทำให้ลูกจ้างเสียสิทธิรักษาจากประกันสังคม
ล่าสุด นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เผยถึงประเด็นข่าวดังกล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดฉะเชิงเทรา สาขาบางปะกง เขตพื้นที่รับผิดชอบเข้าตรวจสอบพร้อมลงพื้นที่ประสานงานให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วนจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าบริษัทฯ ดังกล่าวได้ค้างชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนประจำปี 2559 และ 2561 รวม 697,000 บาท ค้างชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พร้อมเงินเพิ่มตามกฎหมาย จำนวน 12,561,951.28 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 13,285,951.28 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้แทนบริษัทฯ ในวันดังกล่าว ซึ่งทางบริษัทฯ ตกลงรับจะชำระเงินสมทบค้างชำระกองทุนประกันสังคมของลูกจ้างที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ภายในวันที่ 2 มี.ค. 2561 นี้ ทั้งนี้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดฉะเชิงเทรา สาขาบางปะกง ได้ชี้แจงสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง รวมถึงขั้นตอนในการเร่งรัดหนี้ของสำนักงานประกันสังคมให้ลูกจ้างทุกคนได้เข้าใจแล้ว
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามพฤติกรรมที่นายจ้างกระทำนั้น ถือเป็นการทำผิดกฎหมายประกันสังคม สำนักงานประกันสังคมจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับนายจ้าง ตามขั้นตอน คือ นายจ้างจะต้องจ่ายเงินสมทบย้อนหลังตามจำนวนที่ยังไม่นำส่ง และจ่ายเงินเพิ่มในอัตรา ที่กฎหมายกำหนด
โดยในส่วนนายจ้างที่ค้างชำระหนี้กองทุนประกันสังคม จะต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนของเงินสมทบที่ยังไม่นำส่งหรือส่วนที่ขาดอยู่จนครบ ส่วนนายจ้างค้างชำระหนี้ของกองทุนเงินทดแทน นายจ้างจะต้องจ่ายเพิ่มในอัตราร้อยละ 3 ต่อเดือนของเงินสมทบที่ยังค้างชำระ กรณีที่สำนักงานประกันสังคมได้ติดตามเร่งรัดหนี้ตามขั้นตอนดังกล่าวแล้ว แต่นายจ้างยังเพิกเฉยไม่นำส่งเงินสมทบและเงินเพิ่ม (ค่าปรับ) ที่ค้างชำระ ทางสำนักงานประกันสังคมจะใช้มาตรการในการดำเนินคดีทางอาญากับนายจ้างตามขั้นตอนทันที คือ การดำเนินการยึด อายัด และขายทรัพย์สินทอดตลาด ซึ่งกรณีดังกล่าวนอกจากนายจ้างจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ยังส่งผลกระทบต่อลูกจ้าง ผู้ประกันตน เพราะไม่สามารถขอรับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขการเกิดสิทธิประโยชน์ในแต่ละกรณีได้
อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือไปยังลูกจ้าง/ผู้ประกันตนหรือผู้ที่พบเห็นการกระทำดังกล่าว แจ้งข้อมูลเบาะแสได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขา/ ที่ท่านสะดวก โดยยื่นร้องเรียนด้วยตนเอง ผ่านโทรศัพท์สายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือที่เว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ www.1111.go.th