สิงห์อมควันไทยลด ชี้บุหรี่ตัวร้ายทำหัวใจวายตายเร็วสุด
"สสส.-ทันตแพทย์" ร่วมใจวิ่ง “NoNo Fun Run 2018: My Heart is Running not Smoking" รณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก หวังกระตุ้นเยาวชนไม่ริลองสูบบุหรี่ เฮ แนวโน้มคนไทยสูบบุหรี่ลดลงต่อเนื่อง เหลือสิงห์อมควัน 19.1%
เมื่อวันที่ 26 พ.ค.61 ที่ สวนป่าเบญจกิติ ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมวิ่งเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2561 งาน “NoNo Fun Run 2018: My Heart is Running not Smoking" จัดโดยเครือข่ายทันตแพทย์ไทยต้านภัยยาสูบ สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาทันตแพทย์แห่งประเทศไทย และ สสส. เพื่อปลุกกระแสสังคมให้ตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบของยาสูบต่อหัวใจและร่างกาย สร้างค่านิยมให้เยาวชน ให้หันมาวิ่งออกกำลังกาย ที่ช่วยให้มีสุขภาพดี และช่วยให้เลิกสูบบุหรี่ด้วย โดยมีนักวิ่งจากภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ ทันตแพทย์ นิสิตนักศึกษาทันตแพทย์ กลุ่มผู้สูบที่เลิกสูบบุหรี่ และประชาชนทั่วไปกว่า 500 คน
โดย ดร.นพ.บัณฑิต กล่าวว่า วันงดสูบบุหรี่โลกในปีนี้ องค์การอนามัยโลก ประกาศคำขวัญว่า “Tobacco Break Hearts: Choice Health not Tobacco” หรือ “บุหรี่ร้ายทำลายหัวใจ” ที่ผ่านมาประชาชนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ในแง่ของการก่อให้เกิดมะเร็ง แต่บุหรี่ยังก่อให้เกิดโรคเรื้อรังไม่ต่ำกว่า 25 โรค รวมถึงโรคหัวใจด้วย ทั่วโลกมีคนตายจากโรคหัวใจประมาณ 9 ล้านคน พิสูจน์ได้ว่าเกิดจากบุหรี่ 1.7 ล้านคน ขณะที่คนไทย 1.5 ล้านคนป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ เสียชีวิตจากหัวใจวายในช่วงอายุ 50-60 ปี ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากบุหรี่ บุหรี่ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบเกิดภาวะหัวใจวาย หากเจ็บหน้าอกต่อเนื่องนาน 5-30 นาที ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่ต้องไปพบแพทย์ตรวจหาอาการผิดปกติทันที จึงจำเป็นต้องทำให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ในแง่ของการทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจมากขึ้น
ดร.นพ.บัณฑิต กล่าวต่อว่า สถานการณ์การสูบบุหรี่ของคนไทย จากผลสำรวจล่าสุด ปี 2560 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า แนวโน้มการสูบบุหรี่คนไทยลดลงเล็กน้อยอย่างต่อเนื่อง โดยคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ ร้อยละ 19.1 หรือ 10.7 ล้านคน ลดลงจาก 2 ปีก่อนคือปี 2558 อยู่ที่ ร้อยละ 19.9 โดยเป็นผู้สูบประจำ ร้อยละ 16.8 หรือ 9.4 ล้านคน ทั้งนี้ เพศชายสูบบุหรี่ลดลงมากกว่าเพศหญิง โดยเพศชายลดเหลือ ร้อยละ 37.7 จากเดิม ร้อยละ 39.3 เพศหญิงลดลงเหลือ ร้อยละ 1.7 จากเดิม ร้อยละ 1.8 ขณะที่อายุที่เริ่มสูบบุหรี่ครั้งแรกเพิ่มขึ้นเป็น 18 ปี จากเดิม 17.8 ปี ผลสำรวจสะท้อนถึงแนวทางการทำงานควบคุมยาสูบจากหลายภาคส่วน รวมทั้ง สสส. ได้เดินมาถูกทาง โดย สสส. จะเร่งดำเนินการโครงการที่เกี่ยวข้องกับการชักชวนให้เลิกสูบบุหรี่
โดยเฉพาะโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ให้เข้มข้นขึ้น ส่งเสริมการคัดกรองผู้สูบบุหรี่ ผู้ติดบุหรี่ให้เข้าสู่การบำบัด รณรงค์ให้ความรู้ เท่าทันอันตรายบุหรี่ พร้อมทั้งทำงานคู่ขนานกับภาคนโยบาย รวมถึงการเสริมประสิทธิภาพของ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ให้สามารถปฏิบัติและบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ การจำกัดอายุผู้ซื้อ การห้ามโฆษณาทุกรูปแบบ ฯลฯ ทั้งหมดนี้จะช่วยปกป้องสุขภาพคนไทยจากบุหรี่ได้มากขึ้น มีการเปรียบเทียบ สนามบินสุวรรณภูมิใช้เงินก่อสร้าง 150,000 ล้านบาท ขณะคนที่ผลกระทบจากการสูบบุหรี่ ทำให้คนเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เฉพาะตัวเลขการขาดงาน ค่ารักษาพยาบาลรวมกันได้ 75,000 ล้านบาท เท่ากับครึ่งหนึ่งของสนามบินสุวรรณภูมิ หากประหยัดตรงนี้ไปได้ก็เทียบเท่ากับการได้สนามบินสุวรรณภูมิมาปีละครึ่งหนึ่ง
ผศ. ดร. ทพ. ณัฐวุธ แก้วสุทธา ประธานแผนงานพัฒนาแกนนำนิสิตนักศึกษาทันตแพทย์ฯเพื่อการควบคุมยาสูบ ในฐานะผู้จัดงานฯ กล่าวว่า กิจกรรมภายในงานวิ่งรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ NoNo Fun Run 2018 ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทันตแพทย์ไทยต้านภัยยาสูบ ร่วมกับ สสส. ได้ดำเนินงานเพื่อควบคุมการบริโภคยาสูบของเยาวชนในฐานะตัวแทนบุคลากรในวิชาชีพทันตแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สัญลักษณ์ “Nono กระต่ายขาเดียว” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวิชาชีพทันตแพทย์ในการสร้างค่านิยมไม่สูบบุหรี่ “ยืนกรานปฏิเสธบุหรี่ ไม่เริ่มและไม่เลือกใช้ยาสูบตลอดชีวิต” รวมทั้งการปลูกฝังเจตคติให้ทันตบุคลากรทันตแพทย์เป็นต้นแบบในการควบคุมการบริโภคยาสูบ
ด้าน น.ส.ธนพร ขันกสิกรรม อายุ 44 ปี พนักงานบริษัทเอกชน กล่าวว่า ตนสูบบุหรี่มา 22 ปี พยายามเลิกสูบบุหรี่มาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จนได้มีโอกาสมาวิ่งครั้งแรกในงาน thaihealth day run ปี 2560 ของ สสส. รู้สึกติดใจ สนุกที่ได้มาออกกำลังกาย ที่สำคัญทำให้รู้ว่าร่างกายไม่แข็งแรง หอบ เหนื่อยมาก เพราะช่วงนั้นยังสูบบุหรี่อยู่ พอเริ่มวิ่งอย่างจริงจัง ความพยายามเลิกสูบบุหรี่ก็กลับมาอีก เริ่มจากลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนตอนนี้เลิกต่อเนื่องได้ 1-2 เดือนแล้ว รู้สึกร่างกายดีขึ้น สดชื่นขึ้น วิ่งหรือออกกำลังกายได้ต่อเนื่องนานขึ้น ทุกวันนี้วิ่งได้ 10 กิโลเมตรแล้ว และตัดสินใจจะเลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดเพื่อสุขภาพของตัวเองและคนใกล้ชิด เพื่อนๆ ที่ชวนมาวิ่งด้วยกันก็มีความคิดจะเลิกสูบเพื่อสุขภาพอีกด้วย
ทั้งนี้ กิจกรรม NoNo Fun Run 2018 ประกอบด้วย วิ่งระยะ 5 กิโลเมตร เกมและซุ้มกิจกรรม อาทิ ให้ความรู้เรื่องพิษภัยบุหรี่ต่อหัวใจและสุขภาพร่างกาย ให้ข้อมูลเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และการรณรงค์เชิญชวนเลิกบุหรี่ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงาน และบุคคลทั่วไปได้ตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบของการใช้ยาสูบ ในช่วงวันงดสูบบุหรี่โลก 31พฤษภาคม ที่จะถึงนี้