'ในหลวง' รับเด็กป่วยมะเร็งเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ "ในหลวง" รับเด็กป่วยมะเร็งเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์
(15 ก.ค.61) จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Ibroheem Aonboot" ได้มีการแชร์ภาพของเด็กชายคนหนึ่งนั่งวาดภาพพี่ชายของตนเองที่กำลังป่วยโรคมะเร็งและปอดติดเชื้อ และวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์เต็มพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อยู่เบื้องหน้า พร้อมกับบรรจงเขียนถ้อยคำด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าว่า "ถึง พระเจ้าอยู่หัว ผมชื่อ ด.ช.อีฟฟราน อ้นบุตร อายุ 12 ปี ผมอยากให้พระเจ้าอยู่หัว ช่วยรักษาพี่ชายของผม พี่ชายของผมชื่อ เรฟาดี้ อ้นบุตร อายุ13ปี พี่ผมเป็นมะเร็งและปอดติดเชื้อ ผมอยากให้พี่ผมหายแล้วกลับมาเล่นกับผม ผมมีพี่ชายคนเดียว พระเจ้าอยู่หัวช่วยผมด้วยนะครับ. ขอบคุณครับ" ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวได้กลายเป็นที่สนใจ และมีการแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง พร้อมกับการคอมเม้นท์ให้กำลังใจกับครอบครัว รวมทั้งขอให้ปาฏิหาริย์เป็นจริงนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ นายอิบรอฮีม อ้นบุตร อายุ 35 ปี ชาว ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว และเป็นน้าชายของเด็ก เล่าให้ฟังว่า หลายชายของตน คือ ด.ช.เรฟาดี้ หรือ น้องฟาดี้ อ้นบุตร อายุ13ปี ได้ป่วยมะเร็งและปอดติดเชื้อ โดยปกติน้องฟาดี้ จะเป็นเด็กขยัน และเรียบร้อย แต่ค่อนข้างกลัวหมอ และเป็นคนเก็บอาการเก่ง แต่เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา น้องฟาดี้ บอกว่าปวดท้อง จึงได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ซึ่งตอนนั้นยังสามารถเดินได้เองตามปกติ
และเมื่อหมอได้ทำการตรวจ และเอ็กซเรย์เบื้องต้นพบลักษณะคล้ายกับมีน้ำในปอด จึงจำเป็นที่ที่จะต้องทำการตรวจเช็คอย่างละเอียดด้วยอุโมงค์สแกน โดยหมอให้นอนหงาย แต่ปรากฏว่า น้องฟาดี้ นอนหงายไม่ได้ เนื่องจากเจ็บ และนอนตะแคงได้เพียงอย่างเดียว ผิดจากปกติที่เป็นคนนอนหงาย ทางหมอจึงได้ใส่เครื่องช่วยหายใจ และพยายามประคองตัวให้สามรถนอนหงายเข้าเครื่องสแกนได้ ซึ่งผลตรวจที่ออกมาทุกคนก็ต้องตกตะลึง เนื่องจากพบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ขนาดประมาณ 1 ฟุต ตั้งแต่ช่วงอกถึงท้อง ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่กดทับอวัยวะสำคัญของร่างกายหลายอย่าง โดยทางหมอได้ทำการผ่าตัดในครั้งแรก แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากเนื้อร้ายเชื่อมโยงอยู่กับอวัยวะสำคัญโดยเฉพาะปอดและหัวใจ และทำให้คนไข้เสียเลือดมาก จึงได้ยุติการผ่าตัด และประสานงานร่วมกัน ก่อนส่งตัวมาเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ซึ่งขณะนี้น้องฟาดี้ ยังคงอยู่ในห้องไอซียู โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
นายอิบรอฮีม บอกด้วยว่า นอกจากนี้น้องอีฟฟราน ซึ่งเป็นน้องชายของน้องฟาดี้ มีความคิดที่อยากจะวาดภาพ และเขียนเรื่องราวส่งไปยังพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อขอให้พระองค์ท่านทรงเมตตา และช่วยเหลือพี่ชายตัวเองให้หายเป็นปกติ ตนจึงเอาภาพของพระเจ้าอยู่หัวในโทรศัพท์มาให้ดู และน้องอีฟฟราน ซึ่งปกติก็เป็นคนชอบวาดภาพอยู่แล้ว ก็ได้เริ่มลงมือวาดจนเสร็จเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน และตนได้นำเรื่องราวมาแชร์ผ่านทางเฟซบุ๊ก เพื่อที่จะหวังให้ปาฏิหาริย์มีจริง ซึ่งก็มีคนเข้ามาร่วมให้กำลังใจ และแชร์เรื่องราวกันออกไปเป็นจำนวนมาก
และในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น ตนก็ได้นำภาพวาดดังกล่าวใส่ซองจดหมายจ่าหน้าซองถึงสำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง และนำไปส่งที่ที่ทำการไปรษณีย์หาดใหญ่ เพื่อส่งต่อความปรารถนาเพียงครั้งเดียวของชีวิตไปถึงพระองค์ท่าน แต่ปรากฏว่า เมื่อตนเดินทางกลับมาจากส่งไปรษณีย์มายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พบว่า ทุกคนทั้งพ่อแม่เด็ก น้องอีฟฟราน และญาติๆ ต่างอยู่ในการการหลั่งน้ำตา ก่อนที่จะทราบว่า ทางหมอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับทางสำนักพระราชวัง และทีมแพทย์ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนั้นทราบถึงพระองค์ท่านแล้ว และได้รับเคสของน้องฟาดี้ เป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และอยู่ในระหว่างการส่งต่อข้อมูลของผู้ป่วย ซึ่งทุกคนต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และเชื่อแล้วว่า ปาฏิหาริย์มีอยู่จริง
ด้าน น้องอีฟฟราน บอกด้วยว่า ในตอนนั้นคิดว่า มีแต่พระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นที่จะช่วยได้ จึงได้ลงมือวาดภาพและเขียนข้อความถึงพระองค์ท่านให้ทรงมีพระเมตตา และเข้ามาช่วยเหลือพี่ชายของตนด้วย ซึ่งเมื่อเรื่องดังกล่าวพระองค์ทราบก็รับพี่ชายเข้าเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งตนรู้สึกตื้นตันใจ และขอขอบคุณในความเมตตากรุณาของพระองค์ท่าน ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกมีความสุข และมีความหวังว่า พี่ชายของตนนั้นจะต้องรอด และหายกลับมาเป็นปกติ