'บาทอ่อน' ทุบกำกไรปตท.สผ.วูบ52%
ปตท.สผ.เจอพิษ "บาทอ่อน" ทุบกำไรไตรมาส 2 วูบ 52% มั่นใจไตรมาส 3 ยอดขายเพิ่มต่อเนื่อง
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.เปิดเผยผลประกอบการงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2561 มีกำไรสุทธิ 3,590 ล้านบาท หรือ 0.83 บาทต่อหุ้น ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 7,535 ล้านบาท หรือ 1.67 บาทต่อหุ้น หรือลดลง 52% ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปีก 2561 กำไรสุทธิ 16,970 ล้านบาท หรือ 4.07 บาทต่อหุ้น ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 19,819 ล้านบาท หรือ 4.68 บาท หรือลดลง 14%
ปตท.สผ.ชี้แจงว่า กำไรที่ลดลงแรงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่าส่งผลให้ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามด้านผลการดำเนินงานปกติมีกำไรเพิ่มขึ้นจากงวดปีก่อน หลังปริมาณขายและราคาขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ค่าเงินบาทสิ้นไตรมาส 2/2561 อยู่ที่ 33.17 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ สิ้นไตรมาส 1/2561 ที่ 31.23 บาท/ดอลลาร์
สำหรับในไตรมาส 2/2561 ปตท.สผ. มีปริมาณการขายเฉลี่ย 302,846 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากระดับ 281,435 บาร์เรล/วันในไตรมาส 2/2560 โดยหลักจากโครงการคอนแทร็ค 4 เนื่องจากผู้ซื้อรับก๊าซธรรมชาติในปริมาณที่เพิ่มขึ้น และโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เนื่องจากผู้ซื้อในประเทศมาเลเซียสามารถกลับมารับก๊าซธรรมชาติในปริมาณที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจำนวนวันในการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 2/2561 น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สำหรับราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 46.94 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับ 38.08 ดอลลาร์ /บาร์เรลในไตรมาส 2/2560
ปตท.สผ.คาดการณ์ปริมาณขายปิโตรเลียมในไตรมาส 3/2561 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 308,000 บาร์เรล/วัน จากระดับ 302,846 บาร์เรล/วันในไตรมาส 2/2561 หลังจะมีปริมาณการผลิตเพิ่มจากการเข้าถือหุ้นเพิ่มในแหล่งบงกช หนุนให้ทั้งปี 2561 จะมีปริมาณขายเฉลี่ย 310,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่มองทิศทางราคาน้ำมันดิบดูไบในครึ่งหลังของปีนี้จะเคลื่อนไหวในช่วง 65-75 ดอลลาร์/บาร์เรล