"รอง ผบช.ทท." ปิดล้อมตรวจค้น 2จุด ย่านคลองเตย ตั้งเวปพนันออนไลน์ผ่านแอพฯทำงานตลอด24ชม.เงินหมุนเวียน 700ล้าน จดทะเบียนโดยคนไทยอยู่ระหว่างติดตามตัว
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม . พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร) พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รองผบก.สส.บช.ภ.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.สายตรวจ สนธิกำลังชุดปฎิบัติการศปอส.ตร. ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจจีนนำกำลังปิดล้อมตรวจค้น 2 จุด ภายในอาคารพีเอสทาวเวอร์ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มชาวจีนเข้ามาเช่าเปิดเป็นฐานปฏิบัติการตั้งเว็บพนันออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน
ที่เกิดเหตุจุดแรกกำลังตำรวจปฎิบัติการศปอส.ตร ได้เข้าตรวจสอบห้องชุดเลขที่36/39 ชั้น 13 ซึ่งเปิดเป็นบริษัทซัพวินซี่ เทคโนโลยีจำกัด ก่อนบุกเข้าไปภายในบริษัทดังกล่าว พบชาวจีน 22 ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 5 ราย กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์จากการตรวจค้นพบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 25 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 3 เครื่องโทรศัพท์มือถือ 33 เครื่อง ซึ่งกำลังเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ นอกจากนี้ยังพบเซิร์ฟเวอร์ จำนวน 2 เครื่อง บัญชีลูกค้าชาวจีนจำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จุดที่สองคือเข้าตรวจสอบห้องชุดเลขที่36/40 ชั้น 13 ซึ่งเปิดเป็นบริษัทซูล แอล เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปภายในบริษัทดังกล่าว ก็พบชาวจีน 36 ราย เป็นชาย 28 ราย หญิง 8 ราย จากการตรวจค้นพบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 66 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 3 เครื่องโทรศัพท์มือถือ 79 เครื่อง ซึ่งกำลังเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ นอกจากนี้ยังพบเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในการโอนเงินจำนวน 1 เครื่อง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับปฎิบัติการครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสาธารณรัฐประชาชนจีน และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสืบสวนหลังทราบว่ามีกลุ่มชาวจีน ใช้ไทยเป็นฐานที่มั่นในการตั้งพนันออนไลน์ จึงได้บูรณาการทำงานร่วมกันในการแกะรอย กระทั่งพบความเคลื่อนไหวที่ห้องชุดดังกล่าว ว่ามีกลุ่มคนจีนเข้ามาทำงานในลักษณะต้องสงสัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก และชอบเก็บตัวไม่ออกไปไหน ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบต่อไปถึงกรรมการผู้จัดการบริษัทว่ามีส่วนที่รู้เห็นเป็นใจหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนร่วมก็จะถูกดำเนินคดีด้วย โดยทั้ง 2 บริษัทเปิดมาประมาณ 3 เดือน เชื่อว่ามีคนไทยมีเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 3-4 ราย นอกจากนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ช่วยเหลือติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เพื่อขยายผลต่อไป
จากการตรวจค้นพบว่าเป็นเครือข่ายพนันออนไลน์เว็บไซต์ www.Tiyo.com ใช้ห้องชุดดังกล่าวเป็นสถานที่ควบคุมระบบในการเปิดให้เล่นพนันออนไลน์ โดยมีนายทุนชาวฟิลิปปินส์ชื่อนายสตีฟ เป็นหัวหน้าใหญ่ และมีผู้ดูแลเป็นชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งในเว็บดังกล่าวมีโต๊ะพนันไพ่กว่า 20 ชนิด ทั้งโบร์กเกอร์ ไพ่เต๋อโจวออนไลน์ และไพ่ชนิดต่างๆ ที่ชาวจีนนิยมเล่นนอกจากนี้พบว่ามีเซิร์ฟเวอร์ใหญ่อยู่ที่ประเทศฮ่องกง และประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวสามารถรองรับลูกค้าชาวจีนได้มากกว่า 10 ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งฐานหรือเซิร์ฟเวอร์หลักที่เปิดในประเทศไทย จะทำหน้าที่ในการรับแทงพนัน คำนวณแต้ม โดยผู้เล่นจะต้องโอนเงินผ่านระบบยูเนี่ยนเปย์ และวีแซท รวมทั้งพบความเชื่อมโยงกับขบวนการปั่นหุ้นในจีน ซึ่งแผนประทุษกรรมของขบวนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนในมณฑลเหอหนาน เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว จากนั้นก็จะมาตั้งฐานก่อเหตุในไทย แต่จะสร้างความเสียหายในประเทศจีน ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าแผนประทุษกรรมในลักษณะนี้ยังคงมีอยู่
จากการสอบสวนทราบว่าขบวนการนี้ได้เข้ามาในไทยกว่า 3 เดือน โดยมีเงินหมุนเวียนราว 700 ล้านบาท อย่างไรก็ดีการสืบสวนของตำรวจ ขณะนี้พบว่าทั้งสองบริษัทมีการจดทะเบียนโดยคนไทย ซึ่งขณะนี้ทราบตัวแล้ว อยู่ระหว่างการติดตาม อีกทั้งยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างแก๊งมังกรจีนเหอหนาน กับแก๊งที่มาจากมณฑลจี้หลิน ซึ่งเป็นคอลเซ็นเตอร์ ที่ถูกจับกุมได้ในจังหวัดภูเก็ต เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และเครือข่ายพนันออนไลน์ที่จ.เชียงใหม่ แต่ทั้งหมดถือเป็นอาชญากรข้ามชาติกลุ่มสำคัญที่ตำรวจจากสาธารณรัฐประชาชนจีนต้องการตัวถือเป็นความร่วมมือระหว่างไทยจีนที่ประสบความสำเร็จอีกครั้ง หลังจับมือกันแลกเปลี่ยนข้อมูล จนเข้าจับกุมเป็นผลสำเร็จ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจัดให้มีการละเล่นพนันออนไลน์ เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพ โดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหาเจ้าบ้านในฐานความผิดตามม.38 พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งระบุว่าเจ้าของบ้านหรือผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เข้าพักอาศัย จะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ เคหสถาน หรือโรงแรมนั้นอยู่ ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ถ้าท้องที่ใดไม่มีที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองตั้งอยู่ ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจในท้องที่นั้นในกรณีที่บ้าน เคหสถาน หรือโรงแรมที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ตามวรรคหนึ่งตั้งอยู่ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กองตรวจคนเข้าเมือง ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งสน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฏหมาย และจะประสานทางกสทช.เข้ามาร่วมตรวจสอบต่อไป