อินโดฯวอนผู้ส่งออกโอนกำไรกลับประเทศเป็นดอลลาร์
รัฐบาลอินโดนีเซีย เรียกร้องให้กลุ่มผู้ส่งออกโอนกำไร ซึ่งอยู่ในรูปดอลลาร์กลับประเทศ และแปลงเป็นสกุลเงินรูเปียห์เพื่อช่วยพยุงค่าเงินที่กำลังทรุดตัวลง
ทั้งนี้ รูเปียห์ดิ่งลงแตะ 14,600 เทียบดอลลาร์ในวันจันทร์ (13ส.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤตค่าเงินลีราของตุรกี
นางศรี มัลยานี รมว.คลังอินโดนีเซีย กล่าวว่า ได้พูดคุยกับผู้ส่งออกแล้ว โดยขอร้องให้ผู้ส่งออกโอนดอลลาร์กลับประเทศ โดยให้ฝากไว้กับธนาคารในประเทศ และเก็บไว้ในระยะยาวในอินโดนีเซีย
รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซียหวังว่า การโอนดอลลาร์กลับประเทศจะช่วยเพิ่มปริมาณดอลลาร์ในตลาด และจะช่วยสกัดการอ่อนค่าของรูเปียห์
ทั้งนี้ รูเปียห์ อ่อนค่าลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในเดือนมี.ค.และมิ.ย. ขณะที่มีแนวโน้มปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในเดือนก.ย.และธ.ค. อีกทั้งรูเปียห์ ยังดิ่งลงรุนแรงขึ้นจากวิกฤตค่าเงินในตุรกี ส่งผลให้รูเปียห์ร่วงลงแตะ 14,600 เทียบดอลลาร์ในวันนี้ จากระดับ 14,437 ในวันเสาร์ (11ส.ค.)
ทั้งนี้ วิกฤตการเงินในตุรกีได้สร้างความเสี่ยงที่จะลุกลามไปยังตลาดเกิดใหม่ ส่งผลให้สกุลเงินแรนด์ของแอฟริกาใต้, รูปีของอินเดีย และรูเปียห์ของอินโดนีเซีย ต่างอ่อนค่าลงอย่างมาก ขณะที่ตลาดหุ้นทรุดตัวลงเช่นกัน จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการดิ่งลงของค่าเงินลีราต่อธนาคารบีบีวีเอ ของสเปน, ธนาคารยูนิเครดิต ของอิตาลี และธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ของฝรั่งเศส ซึ่งการดิ่งลงของค่าเงินลีราจะส่งผลกระทบต่อธนาคารยุโรปที่ได้เข้าไปทำธุรกิจในตุรกี โดยอีซีบี วิตกว่าการทรุดตัวของค่าเงินจะทำให้ภาคธุรกิจของตุรกีผิดนัดชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศ เนื่องจากจะทำให้ลูกหนี้ในตุรกีต้องชำระหนี้ในมูลค่าของลีราที่สูงขึ้น โดยหนี้สกุลเงินต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% ของสินทรัพย์ในภาคธนาคารของตุรกี