กัญชาทางการแพทย์ต้องสมประโยชน์ทุกฝ่าย

กัญชาทางการแพทย์ต้องสมประโยชน์ทุกฝ่าย

"ประจิน" เผย เร่งออกแบบโรงเรือนกัญชาต้นแบบ ราคาถูก ให้เกษตรกรรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนขออนุญาตปลูก ชู อภัยภูเบศรต้นแบบผลิตสมุนไพรจากพืชกัญชา

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาวิชาการ เรื่อง การใช้กัญชาทางการแพทย์ ประสบการณ์ของประเทศออสเตรเลีย แคนาดา และเนเธอร์แลนด์

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ตำรับแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้นำกัญชามาใช้รักษาโรคและใช้ในชีวิตประจำวันมานานแล้ว แต่ด้วยเหตุที่กัญชามีผลต่อจิตประสาท ทำให้กัญชาต้องควบคุมและกำหนดเป็นพืชเสพติดและยาเสพติด ผู้ผลิต ครอบครอง และใช้มีความผิดทางอาญา ปัจจุบันยอมรับว่ากฎหมายยาเสพติดที่กระจายอยู่ในกฎหมาย 7 ฉบับ ไม่ทันสมัย ไม่เป็นที่ยอมรับ และจำเป็นต้องปรับปรุง


กระทรวงยุติธรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ร่วมกันยกร่างกฎหมายยาเสพติด 2 ฉบับ เพื่อให้ผู้ป่วยเป็นผู้เสพต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างครอบคลุม โดยสถิติในปี 60 พบว่า ประชากรเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 1.3 ล้านคน ขณะที่ศักยภาพในการบำบัดรักษามีเพียง 2.5 - 3.0 แสนคนต่อปี ส่วนที่เหลือต้องไปบำบัดรักษาตัวเอง และพบว่ากัญชามีสัดส่วนการเสพเพียง 5 - 10% การนำมาใช้ประโยชน์จึงมีโอกาสสูงกว่ายาเสพติดประเภทอื่น แต่ต้องไม่ขัดกับข้อตกลงระหว่างประเทศ และพันธสัญญาที่ไทยทำกับ UNODC ซึ่งหลักการ คือ ไม่ทำให้ยาเสพติดผิดกฎหมายกลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย แค่ยินยอมให้ดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ภายใต้ข้อกำหนด ไม่ใช่เปิดเสรี มีการควบคุมตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ การปลูก ผลิต ควบคุมปริมาณ

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า แม้เราจะมีความรู้และการวิจัยเกี่ยวกับกัญชา แต่สิ่งที่ต่างประเทศวิจัยไว้ก่อนหน้า ทำให้เขามีสูตรยาและสิทธิบัตร เขาคงไม่ให้เราทั้งหมด ประเด็นคือจะทำอย่างไรที่จะนำสูตรยาของต่างประเทศมารวมกับภูมิปัญญา และเพื่อไม่ให้การวิจัยกัญชาในไทยติดขัดด้วยข้อกฎหมาย รัฐบาลได้เร่งรัดเต็มที่ คาดว่าไม่เกิน 60 วัน หรือปลายเดือน ธ.ค. นี้ กฎหมายเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์จะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ นายกฯ ได้อนุมัติตั้งอนุกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ 2 ชุด ให้ทำงานคู่ขนานกัน ชุดแรก จะดูแลการศึกษาวิจัย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพ ชุดที่ 2 ดูแลเรื่องกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเสนอชื่อกรรมการให้ ครม. อนุมัติ


จากนั้นจะเดินหน้าทุกเรื่องโดยไม่รอให้กฎหมายแล้วเสร็จ โดยประเด็นสิทธิบัตรยาจะต้องหารือร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ไม่เกิน 2 สัปดาห์ หลักการคือ ต้องการให้ประเทศและคนไทยได้ประโยชน์ 100% แต่ถ้ามีข้อจำกัดเรื่องสูตรยาอาจให้ต่างชาติเข้ามาร่วมในรูปแบบของการร่วมทุนหรือหุ้นส่วน โดยไม่ให้ต่างชาติได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว

รองนายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับการอนุมัติปลูก รัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนใหญ่โดยละเลยกลุ่มเกษตร แผนการดำเนินงานที่เตรียมไว้คือ เปิดให้เกษตรกรรวมตัวกันเป็นกลุ่มหรือวิสาหกิจชุมชน ปลูกเป็นเป็นแปลงใหญ่ มีโรงเรือนที่เหมาะสม ควบคุมอุณหภูมิ เมล็ดพันธุ์ น้ำ ดิน และความชื้น ขณะนี้ได้จัดหาอาสาสมัครและทีมวิจัยออกแบบโรงเรือนต้นแบบราคาถูกให้กับเกษตรกร คล้ายกับโรงเรือนพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้ผลิตกล้วยตาก หรือโรงเรือนปลูกพืชปลอดสารพิษและป้องกันแมลง เพราะการลงทุนสร้างโรงเรือน 100 ล้านบาท ไม่คุ้มทุนสำหรับเกษตรกรแน่นอน การผลิตเพื่อส่งออกจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับเกษตรกรไทย แต่ต้องเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม คือ มีมาตรการควบคุมที่ชัดเจนไม่ให้กัญชาในระบบหลุดออกไปใต้ดิน และไม่ให้กัญชานอกระบบถูกนำเข้ามาสกัดเป็นยา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเริ่มดำเนินการได้ช่วงกลางปี 62

"เราขอพูดให้เข้าใจง่ายๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสบายใจและกลับมาสนับสนุน ไม่สงสัยว่าเรากำลังตัดสินใจในสิ่งที่ผิด ขอให้มั่นในว่าสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นั้น คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและคนไทยเป็นลำดับแรก สิ่งที่จะออกมาต้องสมประโยชน์ทุกฝ่าย" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวถึงการนำกัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ว่า จะเป็นในรูปแบบ 3 ประสาน รัฐบาลไม่ได้มองไปที่แพทย์แผนปัจจุบันอย่างเดียว ยังมีการระดมความรู้จากแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ที่นำพืชเสพติดมาเป็นสมุนไพรทำอาหารเสริมและยารักษาโรค แต่อยากให้รวมตัวเป็นกลุ่มวิสาหกิจเพื่อควบคุมได้อย่างเป็นระบบ

ยกตัวอย่างจากรงพยาบาลอภัยภูเบศร ที่สกัดสมุนไพรมาเป็นยารักษาโรคและอาหารเสริมที่มีมาตรฐานรับรอง ทั้งนี้ ภายหลัง สนช. ผ่านร่างกฎหมายกัญชาทางการแพทย์ ยังต้องมีกฎหมายลูก อาจออกมาเป็นกฎกระทรวงหรือระเบียบ เพื่อควบคุมการกำหนดพื้นที่ปลูก การผลิต และการส่งยาไปให้ถึงมือผู้ป่วย ควบคุมปริมาณการใช้ให้ชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกัญชาจากยาเสพติดประเภท 5 มาเป็นประเภท 2 และยืนยันไม่ปลดกัญชาพ้นจากบัญชียาเสพติด กัญชายังเป็นพืชเสพติดผิดกฎหมาย แค่ผ่อนปรนเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ส่วนข้อเรียกร้องให้ผู้ป่วยสามารถปลูกกัญชาในกระถางเพื่อนำมาใช้บำบัดรักษาตัวเองนั้น ยังทำไม่ได้ เพราะกัญชาที่ปลูกเองไม่ผ่านการทดลองทางคลินิก ไม่มีผู้ควบคุมว่าใช้แล้วจะไม่เกิดอาการโอเวอร์โดสและผลข้างเคียง และไม่ทราบว่าสารที่สกัดได้มีคุณค่าทางการรักษาหรือไม่ และหากเกิดข้อผิดพลาดใครจะรับผิดชอบ