นายกฯยันไม่ผูกขาด'วัคซีน'ชี้ตัดสินใจถูกแล้ว ถ้ามีปัญหาผู้ผลิตรับผิดชอบด้วย
"นายกฯ" เผย "Astrazenega" ติดต่อ "ไทย" มาเอง ยัน ไม่ปิดกั้นเจ้าอื่นขึ้นทะเบียนวัคซีน ชี้ ต้องผ่านมาตรฐานต้นทาง-อย. มั่นใจ ตัดสินใจถูก ถ้าของคนอื่นได้ผล ซื้ออีก ไม่ผูกขาด ระบุ ถ้ามีปัญหาบริษัทผู้ผลิตรับผิดชอบด้วย
ภายหลังจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงการจัดหาวัคซีนโควิดของรัฐบาล ซึ่งมีการตกลงทำสัญญากับบริษัท Astrazenega จำนวน 26 ล้านโดสโดยจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่รวมถึงยังตั้งข้อสังเกตว่าต้องการใช้สร้างคะแนนนิยม รวมถึงยังตั้งคำถามถึงความล่าช้าในการจัดหาและฉีดเข็มแรก และกังวลประสิทธิภาพของวัคซีนที่หากมีผลข้างเคียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะรับผิดชอบอย่างไร
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวจากทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯ เยี่ยมชมอีเว้นท์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผลงานวิจัยที่ได้การสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปีงบประมาณ 2564 และชมกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการ “ฮาวทูแยก - แยกอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ”
เป็นที่สังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้าเรียบเฉย โดยนายกฯ กล่าวช่วงหนึ่งว่า กรณีที่สั่งนำเข้าวัคซีนจากบริษัท Astrezanega เนื่องจากบริษัทดังกล่าวขอเข้ามา และบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ก็มีความพร้อม แต่บริษัทอื่นของเรายังไม่พร้อม และไม่ได้ปิดกั้นการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนจากทุกบริษัท แต่ต้องมีการรับรองมาตรฐาน จากต้นทางมาด้วย
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการฉีดวัคซีนจะมาตามการจองประมาณเดือนพ.ค.-มิ.ย. ไม่ใช่ว่าเมื่อได้มา อย. จะอนุญาตได้ในทันที ระหว่างนี้ก็ศึกษาผลที่เกิดขึ้นหลังการฉีดเป็นอย่างไร เพื่อเตรียมมาตรการป้องกัน ก็ถือว่าดีที่สุดในขณะนี้ และเราก็น่าจะตัดสินใจได้ถูก ถ้าของคนอื่นเขาได้ผลเราก็ซื้ออีก เราไม่ผูกขาดใครอยู่แล้ว
"วัคซีนนำเข้ามาจะต้องมีการควบคุม ใช้ในสถานการณ์แพร่ระบาดเรียกว่าฉุกเฉิน ไม่ใช่ใครก็ได้จะนำเข้าในเวลานี้ รัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบตรงนี้ จะนำเข้ามาจำนวนเท่าไหร่ วันหน้าดีขึ้นแล้วในทางพาณิชย์ค่อยว่ากันอีกที ใครจะมาฉีดเองไม่ได้ทั้งนั้น มันต้องมาจากเรา ถ้ามีปัญหาความรับผิดชอบก็ต้องอยู่ที่บริษัทผู้ผลิตด้วย ตอนนี้ขอให้เข้าใจคำว่าฉุกเฉิน จำเป็นต้องใช้ แม้จะมีผลค้างเคียงบ้าง ก็แล้วแต่กลุ่ม ขอความกรุณาสื่อเวลาเสนอข่าวดูรายละเอียดด้วยไม่เช่นนั้นจะสับสนอลหม่านกันหมด รัฐบาลต้องดูแลตรงนี้ให้เพียงพอ รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนทั้งประเทศ" นายกฯ กล่าว