‘โมบาย มัลแวร์’ โจมตีไทยติดอันดับ 44 โลก

“แคสเปอร์สกี้” เผยปี 2563 โมบายมัลแวร์โจมตีไทยกว่า 2.8 หมื่นรายการ รั้งอันดับ 44 โลก ยิ่งใช้โมบายเพย์เมนท์ยิ่งเรียกความสนใจอาชญากรไซเบอร์ ล่าสุดไทยรั้งเบอร์ 1 โลกใช้งานแอพบริการธนาคาร-การเงิน
ข้อมูลระบุว่า ประเทศไทยได้รับตำแหน่งสำคัญในชาร์ตการจัดอันดับทั่วโลกด้านบริการธนาคารบนอุปกรณ์โมบายและการใช้แอพการชำระเงิน จากรายงาน Digital 2020 ของวีอาร์โซเชียล ที่ระบุว่า ไทยครองอันดับหนึ่งของโลกด้านการใช้งานแอพบริการธนาคารและการเงิน คิดเป็น 68.1% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในช่วงอายุ 16-64 ปี
นอกจากนี้ ประเทศไทยครองอันดับสองด้านการชำระเงินผ่านอุปกรณ์โมบาย โดยมีผู้ใช้งานจำนวน 45.3% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 30.9% ขณะเดียวกันประเทศไทยยังครองอันดับสองด้านการใช้งานโมบายคอมเมิร์ซ โดยมีสัดส่วนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวน 74.2% อินโดนีเซียครองอันดับสูงสุดด้วยผู้ใช้ 79.1% ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 55.4%
เขากล่าวว่า อัตราการใช้งานอุปกรณ์โมบายที่สูงนี้เรียกความสนใจจากอาชญากรไซเบอร์ แม้ว่าสถิติที่พบในประเทศไทยจะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน แต่ก็ยังมีภัยไซเบอร์ที่คุกคามผู้ใช้ในประเทศไทยที่ใช้โทรศัพท์มือถือในการทำธุรกรรมทางการเงินมากขึ้น
แคสเปอร์สกี้เผยว่า ได้ทำการบล็อกโทรจันธนาคารบนอุปกรณ์โมบายไปกว่า 255 รายการในประเทศไทยในปีที่แล้ว โมบายโทรจันบนอุปกรณ์โมบายเป็นมัลแวร์ประเภทหนึ่งที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ยืดหยุ่น และอันตรายที่สุด โดยทั่วไปจะขโมยเงินโดยตรงจากบัญชีธนาคารของผู้ใช้งานอุปกรณ์โมบาย
แต่ทั้งนี้ บางครั้งจุดประสงค์ของโทรจันก็เปลี่ยนไปเป็นการขโมยข้อมูลประเภทอื่นๆ มัลแวร์จะดูเหมือนแอพที่ถูกต้องทั่วไป เช่น แอพพลิเคชั่นของธนาคาร เมื่อเหยื่อพยายามเข้าถึงแอพธนาคาร ผู้โจมตีก็สามารถเข้าถึงแอพนั้นได้เช่นกัน
“อาชญากรไซเบอร์มีกลยุทธ์หลายอย่างในมือ เช่น การหลอกล่อให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอพอีวอลเล็ตปลอมที่ดูถูกต้อง แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่มีเป้าหมายในการแพร่ระบาดบนสมาร์ทโฟนที่ใช้สำหรับการชำระเงินดิจิทัล ผู้โจมตีจะคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเข้ารุกล้ำแพลตฟอร์มอีวอลเล็ต และด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บวกกับช่วงเทศกาลจึงได้เห็นกลเม็ดวิศวกรรมสังคมอื่นๆ เช่น ฟิชชิ่งและกลโกงเพื่อหลอกล่อจิตใจมนุษย์ ตราบใดที่เราใช้อุปกรณ์โมบายในการทำธุรกรรมทางการเงิน เราควรระมัดระวังเกี่ยวกับลิงก์ที่คลิก แอพที่ดาวน์โหลด เว็บไซต์ที่เข้าดู ควรรักษาความปลอดภัยสมาร์ทโฟน เช่นเดียวกับการรักษากระเป๋าเงิน บัตรเดบิต และบัตรเครดิต”