ไขคำตอบ! 'ค่าดัชนีความร้อน' แต่ละระดับ ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

ไขคำตอบ! "ค่าดัชนีความร้อน" แท้จริงแล้วคืออะไร ในระดับต่างๆ นั้นมีความหมายอย่างไร ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรามากน้อยแค่ไหน?
อากาศร้อนอบอ้าวที่แผ่ปกคลุม ทำให้หลายคนสงสัยว่า "ค่าดัชนีความร้อน" ที่มีการแจ้งเตือนอยู่บ่อยครั้งนั้น แท้จริงแล้วคืออะไร และแต่ละระดับความรุนแรงของมัน ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรามากน้อยแค่ไหน? บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงความหมายของค่าดัชนีความร้อน พร้อมไขคำตอบว่าในแต่ละระดับ ตั้งแต่ "เฝ้าระวัง" ไปจนถึง "อันตรายมาก" นั้น มีความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือและป้องกันตัวเองจากภัยร้ายที่มาพร้อมกับความร้อน หลัง กทม. แจ้งเตือน ค่าดัชนีความร้อน (Heat Index) ประจำวันที่ 22 เมษายน 2568 ค่าดัชนีความร้อน (Heat Index) อยู่ในเกณฑ์ อันตราย
ทำความเข้าใจกับ 'ค่าดัชนีความร้อน' (Heat Index)
ก่อนที่จะไปเจาะลึกถึงผลกระทบต่อสุขภาพในแต่ละระดับ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า "ค่าดัชนีความร้อน" คืออะไร ค่านี้ไม่ได้วัดอุณหภูมิของอากาศโดยตรง แต่เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความรู้สึกร้อนที่ร่างกายมนุษย์รับรู้จริง โดยคำนวณจากอุณหภูมิอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ ยิ่งความชื้นในอากาศสูงเท่าไหร่ ร่างกายก็จะระบายความร้อนได้ยากขึ้น ทำให้เรารู้สึกร้อนมากกว่าอุณหภูมิที่วัดได้จริง
เจาะลึกผลกระทบต่อสุขภาพในแต่ละระดับค่าดัชนีความร้อน
ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แบ่งระดับค่าดัชนีความร้อนออกเป็นหลายช่วง พร้อมทั้งระบุถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
ระดับเฝ้าระวัง (27.0 - 32.9 องศาเซลเซียส)
ในระดับนี้ ร่างกายอาจเริ่มรู้สึกร้อนและอึดอัด หากทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกัน อาจเกิดอาการอ่อนเพลียจากการเสียน้ำได้
- ผลกระทบต่อสุขภาพ : อ่อนเพลียจากการเสียน้ำ
- คำแนะนำ : ติดตามข่าวสาร สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ
ระดับเตือนภัย (33.0 - 41.9 องศาเซลเซียส)
ร่างกายจะรู้สึกร้อนมากขึ้นอย่างชัดเจน หากทำกิจกรรมกลางแจ้งต่อเนื่องโดยไม่มีการป้องกันหรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดตะคริวแดด และเพลียแดด
- ผลกระทบต่อสุขภาพ : ตะคริวแดด, เพลียแดด
- คำแนะนำ : ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะช่วง 11.00 - 15.00 น., ดื่มน้ำให้มากขึ้น, หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
ระดับอันตราย (42.0 - 51.9 องศาเซลเซียส)
ในระดับนี้ ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดผลกระทบต่อสุขภาพ หากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคลมแดด (Heat Stroke) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อันตรายถึงชีวิตได้
- ผลกระทบต่อสุขภาพ : เพลียแดดรุนแรง, โรคลมแดด
- คำแนะนำ : หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะช่วง 11.00 - 15.00 น., หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ควรอยู่ในที่ร่มและมีอากาศถ่ายเท, ดื่มน้ำมากๆ, สังเกตอาการตนเองและคนรอบข้างอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที
ระดับอันตรายมาก (52 องศาเซลเซียสขึ้นไป)
เป็นระดับที่มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดโรคลมแดดอย่างรวดเร็ว แม้จะอยู่ในระยะเวลาสั้นๆ ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- ผลกระทบต่อสุขภาพ : โรคลมแดด (Heat Stroke) มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเสียชีวิต
- คำแนะนำ : งดทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเด็ดขาด, หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ควรอยู่ในที่ร่มและมีอากาศถ่ายเทเท่านั้น, ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรีบขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ
กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ
- เด็กเล็กและผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไต
- ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน
- นักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักกลางแจ้ง
- ผู้ที่มีภาวะอ้วน
สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์
- หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ
- ปวดศีรษะรุนแรง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- อ่อนเพลียมากผิดปกติ
- ผิวหนังร้อนแดง แห้งผาก เหงื่อไม่ออก (ในผู้ป่วยโรคลมแดด)
- สับสน หมดสติ
การป้องกันตนเองจากอันตรายของค่าดัชนีความร้อน
- ติดตามพยากรณ์อากาศและค่าดัชนีความร้อนอย่างสม่ำเสมอ
- ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ ตลอดทั้งวัน แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำ
- สวมเสื้อผ้าสีอ่อน โปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัด (11.00 - 15.00 น.)
- หากจำเป็นต้องออกกลางแจ้ง ควรสวมหมวก แว่นกันแดด และทาครีมกันแดด
- พักผ่อนในที่ร่มและมีอากาศถ่ายเท
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และน้ำตาลสูง
- ดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงอย่างใกล้ชิด
การตระหนักถึงระดับความอันตรายของค่าดัชนีความร้อน และการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตในช่วงหน้าร้อนได้อย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่าประมาทกับความร้อน เพราะภัยเงียบนี้อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณและคนที่คุณรักได้