‘ไทย’ติดโผชาติท่องเที่ยวโตเร็วที่สุดในโลก
ด้วยอัตราการขยายตัวเมื่อปีที่แล้วสูงถึง 10.7% แรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามามากขึ้น
สภาการเดินทาง และท่องเที่ยวโลก (ดับเบิลยูทีทีซี) เผยรายงานฉบับล่าสุด แสดงให้เห็นว่า ปี 2559 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการเดินทางโลก ขยายตัวมากกว่าเศรษฐกิจโลกเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ที่ 3.3% สร้างรายได้ทั่วโลกราว 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ263.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 10.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โลก
“ตัวเลขนี้ถือเป็นปีที่่ 6 ติดต่อกันที่การเดินทาง และท่องเที่ยวโตแซงหน้าเศรษฐกิจโลก แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของอุตสาหกรรมนี้ และความกระตือรือร้นของผู้คนที่จะเดินทาง และค้นพบสถานที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองเกิดขึ้นทั่วโลก” นายเดวิด สโคว์ซิลล์ ประธาน และซีอีโอ ดับเบิลยูทีทีซี กล่าว
นายสโคว์ซิลล์กล่าวว่า การเติบโตอย่างต่อเนื่อง เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการเดินทางเพื่อธุรกิจ และพักผ่อน ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ การสร้างงานทั่วโลก
หากพิจารณาเป็นรายประเทศ ดับเบิลยูทีทีซี คาดว่า ประเทศขนาดใหญ่ที่จะมีการเติบโตด้านการท่องเที่ยว และเดินทางเร็วที่สุด คือ จีน อินเดีย ไทย และอินโดนีเซีย และคาดว่า ภายในปี 2570 จีน จะก้าวแซงหน้าสหรัฐ ในด้านการใช้จ่าย และการลงทุน ด้านการท่องเที่ยว และเดินทางภายในประเทศ รวมถึง สัดส่วนของอุตสาหกรรมนี้ต่อจีดีพีโดยรวม
อย่างไรก็ดี คาดว่า สหรัฐ จะยังคงครองอันดับ 1 ในด้านรายได้จากการเดินทาง และท่องเที่ยวที่มีต่อจีดีพีโดยตรง นอกเหนือจากเรื่อง การส่งออกนักเดินทาง และการใช้จ่ายด้านการเดินทางเพื่อธุรกิจ
รายงานดับเบิลยูทีทีซี ยังชี้ว่า อินเดียอาจจะผงาดขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจการเดินทาง และท่องเที่ยวรายใหญ่สุดอันดับ 4 ของโลก ในแง่ของจีดีพีโดยรวม และโดยตรง ภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้ารองจากจีน สหรัฐ และเยอรมนี
สำหรับไทยนั้น คาดว่า จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วต่อไปได้ และจะกลายเป็นตลาดส่งออกนักเดินทางรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ภายในปี 2570 แทนที่สเปน ที่จะร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 4
ปีที่แล้ว ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการเติบโตด้านนี้เร็วสุดในโลก ที่ 8.3% แรงหนุนจากการมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในภูมิภาคนี้มากขึ้น โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเดินทางในไทย ขยายตัว 10.7% เท่ากับเวียดนาม ตามด้วยฟิลิปปินส์ 8.9% สิงคโปร์ 8.7% และอินโดนีเซีย 5.8%
อันดับ 2 ตกเป็นของภูมิภาคเอเชียใต้ ที่ขยายตัว 7.9% แรงหนุนจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของศรีลังกา ที่ 10.7% และอินเดีย 8.5% ขณะที่ภูมิภาคละตินอเมริกา เติบโตช้าสุด ที่ 0.2% ปัจจัยลบจากเศรษฐกิจบราซิล ที่ฉุดการขยายตัวของทั้งภูมิภาค
ภูมิภาคอื่นๆ ที่มีการเติบโตด้านการเดินทาง และท่องเที่ยว รวมถึง เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ 4.6% โอเชียเนีย 4.4% แคริบเบียน 3.2% อเมริกาเหนือ 3.1% ตะวันออกกลาง 2.7% ซับซาฮาราแอฟริกา 2.4% และยุโรป 1.6%
ในปีที่แล้ว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเดินทาง ยังมีการจ้างงาน 292 ล้านตำแหน่ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 10 ของยอดการจ้างงานโลก
รายงานดับเบิลยูทีทีซี ยังแสดงให้เห็นว่า การส่งออกนักเดินทางโลก ที่พิจารณาจากการใช้จ่ายของนักเดินทางต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วนราว 6.6% ของยอดรวมการส่งออกโลก และคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของการส่งออกอุตสาหกรรมบริการโลก
สำหรับปี 2561 ดับเบิลยูทีทีซี คาดว่าอุตสาหกรรมการเดินทาง และท่องเที่ยวโลก จะขยายตัวราว 3.8% สร้างรายได้ประมาณ 7.9 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่า ในช่วงทศวรรษหน้า จะมีการเติบโตเฉลี่ยที่ 3.9% ต่อปี